สำหรับช่วงเดือน ตุลาคม เป็นช่วง Fall หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้ต่างพากันเปลี่ยนสีไล่จากทางเหลือลงสู่ทางใต้ เป็นอีกสีสันของการเที่ยวอเมริกา
สามารถเช็ค
ทริปนี้เดินทางช่วง 15-17 October จาก New York ไปจบที่ Vermont โดยกำหนดเวลาสั้นๆ แค่ 3 วัน 2 คืน แพลนคร่าวๆ เที่ยวไปเรื่อยๆ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่ช่วยแพลนต่างๆให้
แพลนคร่าวๆ สำหรับทริปนี้
• NYC-Lake Placid (4.39hrs)
• Lake Placid – Owl’s head (16mins)
• Hiking time (2 hrs)
• Owl’s head – Essex (44mins)
• On the ferry Essex,NY -Charlotte,VT (30mins)
• Charlotte – Warren (1.30hrs)
• Warren – Warren fall (4mins)
• Hiking time (short walk from the parking lots)
• Warren fall – NYC (5hrs)
New York to Lake Placid
เราเดินทางจาก New York ออกแบบไม่รีบมาก จัดการทุกอย่างเรียบร้อยรวมตัวกันขึ้นรถ ประมาณ 10.00 am มุ่งหน้าไปยัง Lake Placid แต่เปลี่ยนใจแวะไปที่ Albany (เมืองหลวงแห่งรัฐนิวยอร์ก) เพื่อหาข้าวกลางวันรองท้องมาจบที่ร้าน Albany Ale & Oyster ชื่อก็บอกว่าพระเอกคือหอยนางรมกับเครื่องดื่มกึ่มๆ


หน้าร้านเต็มไปด้วย Craft Beer หลายแบรนด์ หลายรูปแบบ ดูไปดูมากลายเป็นอยากเก็บสะสม มากกว่าอยากลอง 555

ระหว่างรอ เลยสั่ง Oyster Of the day มาเป็น Appetizer วันนี้มีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ให้เลือกชิม จะมี Texture ความหนึบ ความเด้งสู้ลิ้นต่างกันออกไป พันธุ์ไหนอร่อยจำไม่ได้แล้ว ต้องรีบเดี๋ยวกินไม่ทันเพื่อน ราคาตัวละ $2-$3 จานนี้ก็ $32

Beef lover ขอจัด Albany’s Best Reuben $14 จานนี้ จากที่เคยกิน Reuben ครั้งแรกที่ร้าน katz’s delicatessen กับ Reuben ระดับตำนานของนิวยอร์ก ก็ติดใจในเนื้อสุดชุ่มฉ่ำ และความชีสหอมมันตลบอบอวล ฟินจนลิ้นก็อยากจะกลืนลงไป ร้านนี้ถือว่าทำได้ดีและ Portion ก็ใหญ่ จุก มากเลยทีเดียว แต่เฉยๆกับเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาคู่กัน (ชิพและพาสต้า)
จากนั้นก็ออกเดินทางต่อ มุ่งตรงไปยัง Lake Placid

ระหว่างทางเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีเป็นระยะๆ และ.. และ.. พระอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงมาทุกที ตอนนี้คือลุ้นว่าไปถึง Lake Placid ทันพระอาทิตย์ตกรึเปล่า 555


ในส่วนของ Upstate New York ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจัดจ้านแล้ว

สุดท้ายเราก็มาถึง Lake Placid ช่วง 5.15 pm ก่อนพระอาทิตย์ตก แต่วันนี้มีเมฆมาก บรรยากาศก็จะอึมครึมหน่อย แสงอาทิตย์ก็คอยลอดเมฆออกมาให้ลุ้นเป็นระยะๆ

Lake Placid Olympic Sites
เมื่อใกล้ถึง Lake Placid เรื่อยๆ จะเริ่มเห็นสัญลักษณ์ Olympic ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Hotel, Stadium, ร้านค้า ต่างๆ เพราะที่นี่เคยเป็นที่จัด Winter Olympics ในปี 1980 ไม่ว่าจะเป็นการแข่งสกี สเก็ตน้ำแข็ง และอื่นๆ นอกจากการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่นี่เลยถือเป็นเมืองที่เหมาะกับการเล่นกีฬาหลากหลายประเภทในหลากหลายฤดู


Lake Placid กับต้นไม้รอบๆ Lake ที่เป็นสีเขียว 555 บางต้นเปลี่ยนสีบ้าง บางต้นร่วงเหลือแต่กิ่ง แต่บรรยากาศเงียบสงบมาก ลมพัดชิวๆ เย็นๆ แถมน้ำใสมากๆด้วย คราวหน้าอยากจะมาพักแถวนี้สักคืน พายเรือเล่นสักหน่อย

1st Night at Budget Rustic Family Cabin (Airbnb)
เที่ยว vermont คืนแรกเลือกนอนที่ Budget Rustic Family Cabin, Wilmington, NY เป็นกลุ่มที่พักหลายหลังอยู่ในบริเวณเดียวกัน จองไว้สำหรับ 3 คน ภายในมี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ และครัว หน้าบ้านมี Campfire สำหรับผิงไฟเพิ่มความอบอุ่น และปิ้งย่าง BBQ ได้ด้วย (แต่คืนนี้ฝนตก เลยอด)

สามารถจองที่พักกับ Airbnb ได้ที่นี่ Budget Rustic Family Cabin, Wilmington, NY
R.F. McDougall’s Pub & Grill
ในเมื่อย่าง BBQ ไม่ได้ เลยจัดร้าน R.F. McDougall’s Pub & Grill กับอาหารสไตล์อเมริกัน ภายในจะมีบาร์ตรงกลางพร้อมนักท่องเที่ยวมานั่งดื่ม ชิว ชมกีฬา เสวนา สังสรรค์กันยามค่ำคืน



Good Morning, Wilmington
เมื่อคืนฝนตกจนถึงเช้า เช้านี้ที่ Wilmington บรรยากาศเลย Cloudy อากาศหนาวใช้ได้เลย แดดไม่จัดจ้านให้ความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก

จากเมื่อคืนมืดๆ ตื่นมากลางป่าสีเหลืองแบบงงๆ ใบไม้สีเหลืองตัดกับลำต้นสีดำแบบนี้ เท่มากๆเลย

เจอว่าข้างๆกันยังมีบ้านที่เป็นที่พักอีกหลายหลังเลย
Wilmington Bridge
ทริป เที่ยว vermont นี้ เราแพลนว่าจะขับรถออกมาตามถนน NY-86 เส้นนี้เล็งไว้ตั้งแต่แรกว่าต้องเจออะไรสวยๆแน่ๆ และก็เจอมุมสวยๆตามคาด จุดแรกคือ Wilmington Bridge

เจอมุมนี้ไปคือยอม กับสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งมีการทำเป็นฝายเล็กๆ กับฉากที่ด้านหลังเป็นภูเขา และวันนี้มีเมฆลอยต่ำๆ สวยไปอีกแบบ ที่แรกก็ไม่ผิดหวังเลยกับการมา เที่ยว vermont ครั้งนี้


แถมเราสามารถลงไปเดินเล่นใกล้ๆลำธารได้ด้วย

ใบไม้ที่เปลี่ยนสีก็มีหลายพันธุ์ หลากลหายทรง ใบนี้สีแดงฉ่ำมาก





จากนั้นก็แวะซื้อกาแฟที่ Adirondack Mountain Coffee Cafe ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ล้อมรอบไปด้วยป่าครึ้มๆ ตรงนี้เป็นอีกจุดที่เดินเล่นถ่ายรูปได้สนุกๆ




Owl’s Head Mountain Trail Head
จุดนี้เป็น Trail ที่มีทางขึ้นเล็กๆ เรียกว่าต้องวนหากันหน่อยกว่าจะเจอ ไม่มีที่จอดรถเป็นเรื่องเป็นราว แถมป้ายยังเล็กมากๆ เส้นทางนี้เดินขึ้นมาไม่ยาก ค่อยๆไต่ไล่ระดับ แต่วิวคือสวยมากกกก

ขึ้นมาถึงจุดชมวิว จะมีหินใหญ่ๆให้นั่งพัก ตรงนี้เป็นป่าและภูเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว เห็นได้ชัดว่าหลายต้นใบไม้ร่วงไปหมดแล้ว แต่ต้นที่ยังไม่ร่วงก็มีสีสันฉูดฉาดมากๆ

มุมนี้เราจะเห็นถนนที่แทรกผ่านป่าไม้ที่หนาแน่น 2 ข้างทาง




Essex Ferry Dock
ต่อมาเราไปที่ Essex เพื่อขึ้นเรือที่ Essex ferry dock เพื่อข้ามไปลง Charlotte ตรงนี้มี Town เล็กๆ คอยต้อนรับนักเดินทางที่ผ่านไปผ่านมา




แถวนี้มีร้านค้า ร้านอาหาร gallery พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ในบรรยากาศ Vintage เป็นเมืองน่ารักๆที่เหมาะกับการมาเดินเล่นชิวๆ เดินได้ไม่เท่าไหร่ฝนก็ตกลงมา รีบกลับรถแทบไม่ทัน


Warren
วันสุดท้ายเราอยู่แถว Warren ยังคงให้เวลากับลำธารและก้อนหิน เราใช้เวลาเล็กน้อยเดินเล่นที่ลำธารหลังที่พัก ก่อน check out


ริมแม่น้ำ จะมี Campfire เป็นจุดๆ ตรงนี้มีเก้าอี้วางล้อมรอบกองไฟอยู่ด้วย ถ้ามาก่อไฟปิ้งบาร์บีคิวตอนกลางคืนคงสนุก


น้ำในลำธารใสและเย็นมากๆ

นอกจากพวกเราแล้วก็ยังมีครอบครัวอื่นๆ มาเดินเล่นเหมือนกัน
Toast & Egg Restaurant
เช้านี้แวะร้าน Breakfast ริมทางที่มีอยู่แค่ไม่กี่ร้าน คนเลยแน่นเป็นพิเศษ เป็นร้านขนาดใหญ่ พร้อมเตนท์สำหรับนั่งแบบกึ่ง Outdoor


การได้ช็อคโกแลตร้อน ตอนเช้าที่อากาศหนาวๆแบบนี้ก็ฟินมากๆ

บรรยากาศหลังร้านอาหาร คือดีงามมาก มีสระน้ำเล็กๆ วิวสวยสุดๆ
Warren Falls
Warren Falls เป็นอีกจุดที่แม็กซ์รู้สึกคุ้มค่ามากๆที่จะแวะจอดและให้เวลากับเค้าสักหน่อย ที่จริงจุดนี้อยู่ไม่ไกลจากถนน เดินง่ายมากๆ ใช้เวลาไม่เยอะ แต่อยากใช้เวลาที่นี่เยอะๆ




ทริปนี้จบด้วย Warren Falls พวกเราใช้เวลานั่งๆ นอนๆ ชิวอยู่ที่นี่สักพักเลยหละ ทริปนี้เป็นทริปที่แม็กซ์ได้สัมผัสใบไม้ที่เปลี่ยนสีแบบเต็มๆ ถึงจะเลยช่วง Peak ไปแล้ว แต่ก็ยังสวยงามน่าจดจำอยู่ดี ทริป เที่ยว Vermont นี้เลยกลายเป็นอีกทริปที่แม็กซ์ชอบมากๆ
ไว้มีโอกาส จะมาใหม่แน่นอน


Add Comment