นั่ง รถไฟไทย กรุงเทพฯ หาดใหญ่ เที่ยวชิวๆ กับรถด่วนพิเศษ “ทักษิณารัถย์”

มาล่องใต้ด้วย รถไฟรุ่นใหม่ กันเถอะ…!!

ตั้งแต่จำความได้ก็นั่ง รถไฟกรุงเทพฯ หาดใหญ่ (ปัตเตอร์เวิร์ธ) แทบทุกปี เลยผูกพันธ์กับ รถไฟไทย มาก ตั้งแต่สมัยเบาะสีครีม จนตู้ใหม่เบาะ PVC สีเทา แต่ปีนี้เป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปลี่ยนตู้อีกครั้งถือเป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่อย่างก้าวกระโดด เลยรีบหาโอกาสขึ้น รถไฟไทย รุ่นใหม่ ว่าจะน่านั่งขนาดไหน

ถ้าใครมีแผนไปปีนัง สามารถตามรอยกันได้ที่นี่เลย
เที่ยวปีนังด้วยตัวเอง Penang มาคนเดียวเที่ยวง่ายมาก.. 2 วัน 1 คืน

รถไฟกรุงเทพฯ หาดใหญ่ ที่ผมนั่งขบวนนี้เป็น เป็นรถด่วนพิเศษที่ 31 “ทักษิณารัถย์” ซึ่งมีเที่ยวปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 โดยขบวนรถนี้มาแทนรถกรุงเทพ – ปัตเตอร์เวิร์ธ (ซึ่งปัจจุบันไม่มีให้บริการแล้ว) ขึ้นรถจากสถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 14.45 น.และถึงหาดใหญ่เวลา 6.35 น.

แม้จะใช้เวลาเดินทางนานแต่ก็มีข้อดีแบบสุดๆหลายข้อ
1. ปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับการนั่งรถบัส
2. ไม่ต้องเดินทางไปเช็คอินล่วงหน้า เหมือนเครื่องบิน
3. ไม่ต้องกังวลเรื่องการพกพาของเหลวขึ้นเครื่อง
4. มีที่ให้นอนเหยียดยาว และเบาะนุ่มสบาย
5. ได้มีเวลาชิวๆ ไม่เร่งรีบ ไม่รีบร้อน ไม่อึดอัด

สำหรับขบวนทักษิณารัถย์ จะวิ่งผ่าน
สถานีรถไฟหัวลำโพง > สถานีสามเสน > สถานีบางซื่อ > สถานีบางบำหรุ > สถานีศาลายา
> สถานีนครปฐม > สถานีราชบุรี > สถานีเพชรบุรี > สถานีหัวหิน >สถานีบางสะพานใหญ่
> สถานีชุมพร >สถานีสุราษฎร์ธานี > สถานีชุมทางทุ่งสง > สถานีพัทลุง > สถานีชุมทางหาดใหญ่

(Ref. รถไฟไทย)

ราคาตั๋วรถไฟ

โดยตั๋วรถไฟ มีอัตราค่าบริการตามระยะทางของรถไฟขบวนใหม่นี้ จะมีให้เลือกทั้งเตียงบน-ล่าง ชั้น 1 และ ชั้น 2
โดยล่าสุดราคาได้มีการปรับราคาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2560 ค่าโดยสารล่าสุด ระหว่าง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ชั้น 2 เตียงบน ราคา 1,005 บาท และ เตียงล่าง 1,105 บาท

(Ref. รถไฟไทย)

การจองตั๋วรถไฟ

สามารถจองได้หลายวิธี โดยสามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ถึง 60 วัน
1. ซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ
2. โทรสำรองที่นั่ง ผ่านโทรศัพท์หมายเลข 1690 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
3. จองตั๋วรถไฟออนไลน์ [วิธีจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 60 วัน Step by Step]

เดี๋ยวเรามาดูบรรยากาศบนรถไฟกันดีกว่า ว่าขบวนใหม่จะแจ่มกว่าขบวนเก่าขนาดไหน สามารถรับชม VDO ได้เลยครับ ^^

ค่าโดยสารล่าสุด ระหว่าง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ชั้น 2 เตียงล่าง ราคา  1005 บาท และ เตียงบน 1,105 บาท

บรรยากาศบนรถไฟขบวนใหม่

ภายนอกของขบวนรถไฟใหม่นี้จะถูกตกแต่งด้วยแถบสีแดง ชมพู สดใสยิ่งขึ้น พร้อมป้ายLED แสดงข้อมูล เลขขบวน / คันที่ / สถานีปลายทาง บอกอย่างชัดเจน

รถไฟขบวนใหม่นี้ถูกออกแบบตามหลัก Universal Design ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับทุกเพศ ทุกวัย พร้อมรถเข็นสีแดงสดใสประจำขบวน พร้อมสำหรับให้ความช่วยเหลือ

เมื่อเข้ามาบริเวณห้องโดยสารของรถไฟใหม่ จะพบกับเบาะกำมะหยี่สีแดงสดใส ดูหรูขึ้นกว่าขบวนเก่าเยอะเลย (สวยขึ้นแต่กังวลเรื่องการดูแลรักษาทั้งความสะอาดและอาจจะโทรมเร็ว)

ความปลอดภัย

ทุกปลายสุดของแต่ละรถไฟใหม่นี้ จะมีกล้องวงจรปิด CCTV บันทึกภาพตลอดแนวทางเดิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ

สำหรับที่เก็บของสามารถเก็บไว้ที่ชั้นเก็บของเหนือทางเดิน ที่จะมีเป็นระยะๆ สำหรับเก็บสัมภาระที่ขนาดไม่ใหญ่และไม่หนักมาก (ต้องยกสูงพอสมควร)

รวมถึงพื้นที่ว่างใต้ทุกที่นั่งได้เช่นเดียวกัน

แต่หากใครมีกระเป๋าขนาดใหญ่ ที่ไม่สามารถใส่ใต้ที่นั่งหรือเหนือศีรษะ สามารถมาเก็บไว้ที่ช่องนี้ได้ โดยจะอยู่ใกล้บริเวณห้องพนักงาน

สัมผัสแรกกับเบาะใหม่เอี่ยม

 บนรถประกอบด้วยเตียงบน-เตียงล่าง ในล็อคเดียวกันแบบนี้ ซึ่งที่นั่งจะหันหน้าเข้าหากันแบบนี้ ถ้าไปคนเดียวก็ต้องนั่งหันหน้าเข้าหาคนอื่น ถ้าขายาวมากๆ อาจจะเข่าชนกันได้ แต่สำหรับผม นั่งได้สบายมาก แต่ถ้ามาเป็นคู่แล้วจองเตียงบน-ล่าง ก็จะได้ล็อคส่วนตัวกันไปเลย

ทุกล็อคที่นั่งจะมีที่วางแก้วและขวดน้ำ ติดอยู่ที่หน้าต่าง พร้อมโต๊ะขนาดเล็กพับเก็บได้สำหรับทานอาหาร หรือทำงานเล็กๆน้อยๆ
(เมื่อเทียบกับตู้เก่าโต๊ะมีขนาดเล็กลงมาก แต่สะดวกในการกางและเก็บมากขึ้น)

ข้างเบาะที่นั่งจะมีบันไดซ่อนไว้ สำหรับปีนขึ้นไปนอนเตียงบนตอนกลางคืนครับ

ห้องน้ำบนรถไฟ

ห้องน้ำบนรถไฟขบวนใหม่จะมีหลายห้อง สำหรับห้องน้ำใหญ่ เรียกว่าใหญ่โตกว้างขวางมาก ซ้ายมือจะเจอกับอ่างล้างหน้าขนาดเล็ก ที่กดสบู่ และทิชชู่เช็ดมือ

ในห้องใหญ่นี้ สามารถเข็นรถเข็นเข้ามาได้ทั้งคัน พร้อมราวจับเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน สำหรับชักโครกเป็นระบบสูญญากาศ แบบเดียวกันกับที่ใช้บนเครื่องบิน (เสียงก็จะดังซวบบบบ แบบเดียวกันเป๊ะ) แล้วของเสียก็จะไม่ถูกปล่อยทิ้งไว้บนรางรถไฟอีกต่อไป สามารถใช้ห้องน้ำได้ แม้ขณะที่รถไฟจอดอยู่ที่สถานี

ทิชชู่ ปุ่มกดชักโครก และปุ่มขอความช่วยเหลืออยู่ข้างชักโครก เพื่อความสะดวก พร้อมใช้งาน
.
.
ต่อไปเห็นห้องน้ำเล็ก

กระจกบานใหญ่ เหนืออ่างล้างหน้า จะมีอยู่ทุกตู้

อ่างล้างหน้า กระดาษเช็ดมือ และถังขยะ 2 ชุด สำหรับล้างหน้า ล้างมือ หรือแปรงฟัน อยู่บนเคาท์เตอร์วัสดุคอมโพสิท ดูสะอาดตาและง่ายต่อการทำความสะอาด

สำหรับห้องน้ำเล็ก จะเล็กมากขนาดที่พอดีแค่การหันภายในห้องน้ำ แต่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน เพราะเราต้องแบ่งพื้นที่ให้ห้องใหญ่ คนอื่นจะได้ใช้งานได้สะดวกๆครับ ชักโครกก็เป็นระบบสูญญากาศเช่นเดียวกัน

แม้ห้องจะเล็ก แต่ก็มีเซ็ตอ่างล้างหน้าในตัว

พร้อมที่ฉีดก้น ทิชชู่ และถังขยะ สะดวกสบาย

บนรถจะมีแจกน้ำดื่มขนาดเล็ก ที่นั่งละ 1 ขวด ตรงนี้ถือว่ามีเพิ่มเข้ามาจากตู้เก่า

ตู้เสบียง สำหรับทานอาหารบนรถไฟ

สำหรับตู้เสบียงจะเป็น Style ใหม่ ถูกตกแต่งอย่างสวยงามสะอาดตา พร้อมจอแสดงข้อมูลของขบวนรถและมีรายการน่าสนใจ

ลักษณะที่นั่งทานอาหารจะเป็นเบาะผ้า หันหน้าเข้าหากัน โดยใช้โต๊ะร่วมกัน 2 ฝั่ง

มาพร้อมตู้แช่เครื่องดื่มต่างๆ ที่สามารถแวะมาซื้อได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมีเมนูกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆให้เลือกทานกันชิวๆบนรถไฟอีกด้วย

เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย จากการสอบถามพนักงาน นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังสามารถสั่ง อาหารได้อีกด้วย ซึ่งจะมีทั้งเมนูแช่แข็ง และเมนูทำสด (ซึ่งเมนูทำสดต้องสั่งล่วงหน้า)

ถ้านั่งกินกาแฟไปด้วย ชมวิวไปด้วย คงชิวสุดๆกันไปเลย

ช่วงเย็นๆก็จะมีคนมาใช้บริการตู้เสบียงกันเยอะ ทั้งสั่งอาหารและนั่งทานกันคึกคัก

ช่วง 6 โมงเย็นจะผ่านราชบุรี สำหรับผมต้องไม่พลาดก๋วยเตี๋ยวราชบุรี 555 ซึ่งเป็นความเคยชิน ตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟจากกรุงเทพ จะรอคอยกินก๋วยเตี๋ยวราชบุรี กล่องละ 10 บาท และแข่งกันกินใครกินจำนวนกล่องเยอะสุด เก่งสุด 5555

ในกล่องจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก กล่องเล็กๆ ที่มาพร้อมตะเกียบไม้ ภายในมีแค่เส้น ลูกชิ้น หมู ที่ปรุงรสด้วยน้ำตาล พริกดอง และพริกป่นเล็กน้อย รสชาติกลมกล่อม ช่วยย้ำความทรงจำวัยเด็กบน รถไฟไทย ของผม

มองออกไปหน้าต่าง ก็จะเจอ วิวสวยๆยามเย็นแบบนี้

ถึงเวลานอน

เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็เป็นเวลาปูเตียงกัน พนักงานก็จะจัดแจงปูเตียง เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและ แขวนผ้าม่านให้เสร็จสรรพ โดยพนักงานจะคอยถามว่าปูเตียงเลยรึเปล่า ซึ่งจะเป็นการปูพร้อมกัน เตียงบนและเตียงล่าง หากนั่งคู่กับคนอื่นก็ต้องสอบถาม และตกลงกันก่อน ^^

ถึงเวลานอน ทุกคนก็นอนโดยพร้อมเพรียงกัน จะมีม่านกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวแบบนี้

สำหรับเตียงล่าง จะมีพื้นที่นอนค่อนข้างเพียงพอสำหรับ 1 คน เบาะนุ่มๆ หมอนก็นิ่ม สะอาด แอร์เย็นสบาย

ตู้เก่าๆ จะมีปลั๊กไฟบริการแค่ส่วนกลางของตู้เท่านั้น แต่สำหรับตู้ใหม่นี้ แต่ละเตียงจะมีไฟอ่านหนังสือ
และปลั๊กไฟสำหรับชาร์ตแบตแบบนี้ เรียกได้ว่าสะดวก ทันยุคสมัยจริงๆ

สำหรับเตียงบนก็จะอุปกรณ์อำนวยความสะดวกคล้ายกัน แต่ที่นอนแคบกว่าเตียงล่าง ถ้าใครตัวใหญ่อาจจะลำบากหน่อย แต่ถ้าเอากระเป๋ามาไว้ข้างตัวก็จะยิ่งพลิกตัวลำบากครับ ^^

หน้าจอที่แสถงสถานะ ก็จะคอยบอกว่ารถไฟอยู่สถานีไหนแล้ว พร้อมเวลาถึงสถานีปลายทาง
โดยประมาณ

แล้วผมก็มาถึง สถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 6.40 น. ก่อนเวลาเล็กน้อย สามารถลบคำว่า “รถไฟเสียเวลา” ไปเลย!

สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางลงใต้ เที่ยวหาดใหญ่หรือจะทะลุไปปีนัง อยากให้ลองเดินทางด้วยรถไฟไทยกันดู
สะดวก ปลอดภัย ชิวมาก กับตู้ใหม่น่านั่งมากถือว่าเป็นมิติใหม่ของรถไฟไทยเลยก็ว่าได้