Temmax ทาคายาม่า-ชิราคาวาโกะ รีวิวทริปเที่ยวญี่ปุ่น กินเนื้อฮิดะ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองทาคายาม่า หิมะหนาๆ และหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ

-My Journey- • Japan - ญี่ปุ่น • TRAVEL - exciting experiences

Takayama – เที่ยวทาคายาม่า ชมเมืองโบราณ ชิมเนื้อฮิดะของดีประจำจังหวัด [CR]

14 February 2018

3 Min Read

หนึ่งวันที่ทาคายาม่า ชิมเนื้อฮิดะ ชมเมืองโบราณที่น่าหลงไหล

แรกเริ่มเดิมที สำหรับทาคายาม่าเป็นเพียงทางผ่านสำหรับไปเที่ยว ชิราคาวาโกะ เท่านั้น แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า ถึงแม้เมืองนี้จะไม่มีวิวหมู่บ้านที่เป็น Signature แต่ก็เป็นเมืองเล็กๆที่อบอุ่นมากๆ ทั้งบรรยากาศ อาหาร ผู้คน ทุกอย่างกลมกลืนอย่างกลมกล่อม จนเป็นอีกเมืองที่น่าหลงไหลไม่แพ้ ชิราคาวาโกะ เลยทีเดียว

ทาคายาม่าเมืองโบราณที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ผมเดินทางด้วยรถบัสพร้อมชมวิว สองข้างทางที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง เมืองทาคายาม่า หรือที่ใครๆ เรียกว่า ฮิดะทาคายาม่า (Hida Takayama) ที่นี่ทั้งสถาปัตยกรรม บ้านเรือน วิถีชีวิต ดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกเมืองเก่าที่ควรมาซึมซับให้ได้สักครั้ง

วิธีการเดินทาง จากคาวากูชิโกะ มา ทาคายาม่า

29/01/17
นั่ง Highway Bus จาก Kawaguchiko Station : เวลา 08:11 ไป Takayama Station : เวลา 12:43 (￥5,000)

ค่าใช้จ่าย

Highway Bus จาก Kawaguchiko ไป Takayama – ￥5,000
Hida Beef Steak Combo – ￥3,200
Hida Beef Combo – ￥2,300
Takayama Jinya – ￥430
เนื้อฮิดะ ร้าน Ajikura tengoku – ￥5442
เห็ดย่าง -￥200
คัสตาร์ด -￥350

เลือกนอน Airbnb รับส่วนลด 1,371 บาท

เมื่อสมัครบัญชี Airbnb ใหม่ ด้วยลิงค์นี้ แล้วจองห้องพัก Airbnb ด้วยลิงค์นี้ >> <<

รายละเอียดเพิ่มเติม >>

ผมมาถึงทาคายาม่า ประมาณ 12:45 กำลังหิวมากๆ เลยรีบเปิดลิสเมนูห้ามพลาดประจำเมือง เลยจิ้มเป็น ‘เนื้อฮิดะ’ (Hida gyu) ซึ่งเป็นของดีเมืองทาคายาม่า ซึ่งเนื้อฮิดะ เป็นชื่อเรียกวัวเนื้อญี่ปุ่นสีดำในแถบนี้ ซึ่งถูกเลี้ยงดูอย่างดีเนื้อที่ได้จะมีความนุ่ม ละมุน ละลาย บอกเลยว่าพรีเมี่ยมมากๆ ไหนๆเรามาถึงแหล่งแล้ว ก็ต้องจัดให้เต็มแม็กซ์สักหน่อย ผมเปิด Trip Advisor เพื่อหาร้านแนะนำ จนได้ร้านเนื้อท้องถิ่น ร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็กๆที่มีไม่ถึง 10 โต๊ะ กับคุณลุงคุณป้าผู้น่ารักที่คอยต้อนรับลูกค้าอยู่ บรรยากาศภายในร้านสัมผัสได้เลยว่าเพิ่งผ่านมื้อเที่ยงอันยุ่งเหยิง เพราะแม้จะไม่มีคนนั่งบนโต๊ะแล้ว แต่ก็มีจานชามรอเก็บอยู่แน่นทุกโต๊ะ ด้วยความหิวมากๆ เลยเลือกเมนูที่ใช่มา 2 ชุด Hida Beef Combo ￥2,300 เซ็ตแรกที่เลือกมาในรูปแบบของข้าวกล่องหรือเบ็นโตะ มาพร้อมกับเนื้อฮิดะดิบ เนื้อฮิดะเทอริยากิ และสเต็กเนื้อฮิดะ เป็นเซ็ตแบบนี้

เซ็ตต่อไปขอเลือกแบบเต็มแม็กซ์หน่อย เป็น Hida Steak Combo ￥3,200 ราคาถือว่าสูงพอสมควร แต่ไหนๆก็มาแล้วเอาให้เต็มแม็กซ์จริงๆเถอะ
ระหว่างรออาหารมา ทางร้านก็จัดเครื่องเคียงสำหรับเซ็ตถัดไปมาให้โดยชุดเครื่องเคียงก็จะมี ข้าวสวย สลัดผักน้ำมันงา เต้าหู้ ผักดอง ซุปมิโสะ เกลือหิมาลัย

และแล้วสเต๊กเนื้อฮิดะ ก็ถูกนำมาเสิร์ฟด้วยกระทะร้อน เนื้อชิ้นใหญ่และหนาพอสมควร ถูกวางเรียงบนถาดและน้ำมันที่กำลังเดือดปุดๆ กระเด็นกระดอนไปทั่ว จานนี้ต้องรีบทาน เดี๋ยวเนื้อจะสุกเกินไป

ทานละนะ อื้มมมม คือเข้าปากแล้วเนื้อละลายหายไปเลย มันเกินกว่าคำว่านุ่มไปมากจริงๆ แต่ไม่ได้มีรสชาติหรือกลิ่นเนื้อที่เข้มเท่าที่ควร ส่วนตัวชอบมากๆเพราะถือเป็นอีกสัมผัสหนึ่งของลิ้นที่ได้สัมผัสอะไรนุ่มๆ แม้จะไม่ได้เคี้ยวหรือสัมผัส Texture ของเนื้อเท่าไหร่ก็ตาม (ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ)

หลังจากอิ่มท้องก็ไป Check-in ที่ Takayama Ninja House เสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นรอบเมืองกัน

Hida Kokubunji วัดคู่เมืองทาคายาม่า

ระหว่างทางก็เตะตากับวัดป้ายหน้าวัดที่เหมือนมีเทศกาลอะไรสักอย่าง วัดนี้คือวัด Hida Kokubunji Temple เป็นวันเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองทาคายาม่ามานาน อาคารหลักของวัดเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองทาคายาม่า สร้างขึ้นในยุคมุโรมาจิ (ประมาณ 500 ปีก่อน) หน้าหนาวแบบนี้วัดก็ถูกปลกคลุมด้วยหิมะไปทั่วบริเวณ

ภายในวัดมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีสถาปัตยกรรมหลายชิ้นที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ ที่เด่นสุดคงจะเป็นเจดีย์สามชั้น ซึ่งเสาหลักของเจดีย์มีอายุกว่า 1,200 ปี ก่อนหน้านี้เคยอยู่ที่ประสาททาคายาม่า ก่อนจะถูกย้ายมาไว้ที่นี่

และอาคารทรงระฆังคว่ำก็ถูกสร้างมาพร้อมๆกับเจดีย์ ก็ถูกย้ายมาจากปราสาททาคายาม่าเช่นกัน

โรงงานผลิตสาเก ที่กว่าจะมาถึงก็ปิดหมดเลย เหลือเพียงถังบ่มสาเกเท่ๆ ให้ดูต่างหน้า

เดินไปเดินมาก็จะเจอกับบ้านหลังพิเศษที่ดูสูงกว่าบ้านหลังอื่นๆในระแวกใกล้เคียง

ภายหลังทราบมาว่าเป็นบ้านสำหรับเก็บ รถแห่ (Yatai) รถโบราณซึ่งใช้แห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในเทศกาล Takayama Festival

เทศกาล Takayama Festival เป็นเทศกาลประจำปีของเมืองทาคายาม่า ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 เทศกาลที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือนเมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ต้นเดือนตุลาคม) โดยรถเป็นสีสันที่สำคัญอย่างหนึ่งในเทศกาลนี้ และรถแต่ละคันมีอายุมากกว่า 100 ปี .. มาถึงตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไป 555 ไม่เป็นไรไว้มาใหม่ก็ได้

สะพานนาคาบาชิ : จุดชมวิวเป็นเอกลักษณ์

สะพานนาคาบาชิ สะพานสีแดงแดงสดใสเป็นอีกแลนด์มาร์คหนึ่งของเมืองทาคายาม่า ซึ่งสะพานนี้จะเปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อยๆในแต่ละฤดู ในฤดูหนาวแบบนี้ก็จะเห็นสีแดงตัดกับหิมะสีขาวโพลน หากมาในช่วงเดือนเมษาก็จะถูกโอบล้อมด้วยดอกซากุระบานสีชมพูบานสะพรั่ง และถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีสีสันที่แปลกตาเช่นกัน และหากมาช่วงเทศกาลทาคายาม่า สะพานนี้ก็ยังเป็นจุดผ่านของขบวนแห่ในเทศกาล ทาคายาม่า อีกด้วย

Takayama Jinya : โบราณสถานแห่งชาติ

ทาคายาม่า จินยะ เป็นสำนักงานสาขาของเอโดะ บากุฟุ (รัฐบาลเอโดะ) ในช่วงปี ค.ศ. 1692 ถึง ค.ศ. 1868 โดยได้รับการจดทะเบียนเป็น โบราณสถานแห่งชาติ และปัจจุบัน ที่นี่เป็นอาคารที่ได้รับการจดทะเบียนแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านการปกครอง เช่น การเก็บภาษี การคลัง การตัดสินคดีความ

ค่าเข้าชม ￥430 ต้องรีบหน่อยเพราะมาตอนใกล้จะปิดแล้ว

บริเวณโถงต้อนรับ กับต้นไม้ที่ใช้แป้งโมจิมาประดับตกแต่งจนเป็นช่อสวยงาม

ภายในอาคารถูกแบ่งเห็นห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโกดังข้าว ห้องรับแขก สำนักงานต่างๆ รวมถึงศาลที่ใช้ตัดสินปัญหาต่างๆ

ศาลและห้องสอบสวน ที่ใช้จัดการคดีทางอาญา

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่สามารถมองได้จากห้องรับรองแขก แต่หากมาในหน้าหนาวแบบนี้ก็จะเจอแต่หิมะทับถมจนขาวโพลนไปหมด หมดกัน สวนญี่ปุ่นในอุดมคติ ^^

อร่อยฟินกับเนื้อฮิดะ ร้าน Ajikura tengoku

ร้าน Ajikura tengo ร้านเนื้อย่างที่ฮิตสุดๆในหมู่คนไทย เพราะร้านตั้งอยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ใกล้สถานีรถบัส หาง่าย แถมอร่อยมากๆในราคาจับต้องได้ แต่บอกเลยว่าคิวยาวมาก รอคิวเป็นชั่วโมง รอจนร้านปิดรับบัตรคิว และทานเสร็จตอนร้านใกล้ปิดแล้ว ใครจะมาทานร้านนี้แนะนำให้มาเร็วหน่อย จะได้ไม่ต้องรอนานเลือกเนื้อแบบพรีเมี่ยมมา 1 จาน (￥1,880)เลือกเนื้อแบบธรรมดา มา 1 จาน (￥980)มื้อนี้เนื้อจะไม่ฉ่ำละลายแบบ Hida Steak มื้อเที่ยง แต่ยังมี Texture ให้ได้เคี้ยว มีรสชาติเนื้อให้ได้สัมผัส สำหรับเนื้อ 2 อย่างที่สั่งมา หลังจากเปรียบเทียบกันแล้วพบว่าอร่อยทั้งคู่ แบบธรรมดาก็อร่อยมากๆแล้ว ถ้าจะซ้ำแบบธรรมดาก็เพียงพอแล้วมื้อนี้กินไปจน Last order ไม่ใช่กินนานนะ แต่ได้คิวเกือบสุดท้ายของวันเลยทีเดียว มื้อนี้ค่าเสียหาย ￥5,442 สำหรับ 2 คน

ออกจากร้านตอนหิมะตกพอดี ลมแรงและหนาวมากๆ กว่าจะฝ่าถึงที่พักเล่นเอาเกร็งไปหมด ติดตามได้จากในคลิป VDOคืนนี้พักที่ Takayama Ninja House กับบ้านญี่ปุ่นสไตล์ Traditional ถือว่าค่อนข้างไกลจาก Bus Station แต่ยังอยู่ในระยะที่เดินไหว ที่พักสะอาด ห้องน้ำสะอาด เจ้าของก็ดูแลเอาใจใส่เป็นกันเองกว่าจะทำใจอาบน้ำได้ก็นานพอสมควร พรุ่งนี้จะไปเดินที่ ทางเดินฮิงาชิยามะ เค้าบอกว่าสวยมากๆ แถมไม่ไกลจากที่พัก และไปหาอะไรกินที่ตลาดเช้าสักหน่อย

ทางเดินฮิงาชิยามะ

ทางเดินฮิงาชิยามะ (Higashiyama Walking Course) เป็นเส้นทางที่จะพาเราชมรอบๆ ทาคายาม่า ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านสถานที่สำคัญทางศาสนาและสวนที่สวยงามหลายจุด ทั้ง วัด ศาลเจ้า ปราสาททาคายาม่า สวนสาธารณะชิโรยามะ มีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง เหมาะกับการเล่นชิว เดินเล่นชมวัดและวิวสวน

ซึ่งผมเลือกเส้นทางที่อยู่เหนือสุดของแผนที่เนื่องจากอยู่ใกล้ที่พักมาก เพียงแค่เดินข้ามถนนเท่านั้น

เดินไปสักพักเริ่มรู้ชะตากรรม เพราะเส้นทางทั้งหมดถูกปลกคลุมด้วยหิมะ แม้จะมีการเคลียร์ไว้เป็นทางเดิน แต่ก็ยังเดินยากอยู่ดี

แต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว ก็ขอเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศหน่อยละกัน

อย่างที่บอก เส้นทางนี้หากเดินเล่นชิวๆจะใช้เวลาอยู่ที่ 1-2 ชั่วโมง และหากมาในหน้าซากูระหรือใบไม้เปลี่ยนสี ต้องโรแมนติกมากแน่ๆ

Miyagawa Morning Market : ตลาดเช้าทาคายาม่า

ตลาดเช้าทาคายาม่า (Morning Markets) มี 2 แห่ง ได้แก่ ตลาดจินยะเมะ และตลาดมิยางาวะ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำมิยางาวะ วันนี้ผมเลือกมาที่ตลาดมิยางาวะ เพื่อให้ที่จะช๊อปและชมวิวแม่น้ำสวยๆไปด้วยได้ ในแต่ละช่วงเดือน ตลาดจะเปิดไม่ตรงกัน หากเป็นช่วงเดือน เมษายน – ตุลาคม จะเปิด 6:00 – 12:00 น. และ พฤศจิกายน – มีนาคม เปิด 7:00 – 12:00 น. แต่ถ้าแพลนจะไปเที่ยว Shirakawago ต่อ ก็สามารถมาแต่เช้าได้เลย

ตลาดมิยางาวะตั้งอยู่บนถนนเลียงแม่น้ำมิยางาวะ ในหน้าหนาวก็จะเป็นแม่น้ำกับหิมะสีขาว สินค้าที่จำหน่ายในตลาดส่วนใหญ่เป็นอาหาร และพืชผัก รวมทั้งงานฝีมือท้องถิ่น และขนมให้เลือกทาน จะมีทั้งร้านที่เป็นแผงลอยและร้านที่อยู่ในอาคาร ตลาดนี้มีความยาวประมาณ 350 เมตร ตั้งแต่สะพานคาจิบาชิ (Kajibashi Bridge) ถึงสะพานยาโยอิบาชิ (Yayoibashi Bridge) ร้านนี้เป็นร้านคัสตาร์ด ที่ทุกคน Recommended ว่าอร่อย หน้าร้านก็จะมีป้ายเขียนความประทับใจเป็นภาษาต่างๆ จากลูกค้าชาวต่างชาติที่มาชิม ยิ่งการันตีความน่ากิน เลยจัดไปในราคาถ้วยละ ￥350คัสตาร์ดในถ้วยแก้วขนาดพอดีมือ เนื้อคัสตาร์ดเนียนๆ นุ่มๆ กลิ่นหอม ไม่หวานเกินไป ซึ่งอร่อยได้มาตรฐานคัสตาร์ดทั่วไป แต่ความฟินคือการเป็นคัสตาร์ดที่อุ่นร้อน มันช่างเหมาะกับอากาศหนาวๆแบบนี้ยิ่งนักสินค้าเกษตร ที่วางบนพื้นง่ายๆ พริกแห้งก็ตากแห้งคาต้นแบบนี้เลย จะซื้อก็หยิบเป็นช่อ สวยๆ มีความเป็นญี่ปุ่นมากๆส่วนร้านนี้เป็นเห็ดย่าง ซึ่งกลิ่นเตะจมูกมาก กลิ่นเหมือนเห็ดหอมสด พ่อค้าจะเอาส่วนดอกเห็ดและขาเห็ดไปย่าง จนหอมกรุ่น เสร็จแล้วก็ให้เราเลือกว่าจะปรุงรสยังไง ผมขอเลือกเป็นเกลือเฉยๆ เพราะอยากชิมรสชาติแท้ๆของเห็ด แบบไม่ปรุงแต่งเยอะ

ความกรุ่นของเห็ดก็จะประมาณนี้ เรื่องรสชาติ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมาก คุ้มกว่าการกินคัสตาร์ดถ้วยที่แล้วซะอีก คือเห็ดดอกใหญ่ หนาและนุ่ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ถูกย่างมาพอดี ร้อนๆ กรุ่นๆ เพิ่มรสชาติด้วยเกลือเล็กน้อย ลงตัวมากๆ

ริมแม่น้ำมีคนครอบครัวลงไปเล่นหิมะกันสนุกสนาน ^^ แค่ดูก็เพลินแล้ว

ทาคายาม่า ผมว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ แม้จะมีนักท่องเที่ยวมาเยอะพอสมควร แต่อาคาร บ้านเรือน ก็ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีทำให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นไม่จางหายไปตามกาลเวลา กับผู้คนที่ดูยิ้มแย้มแจ่มใส มันให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ถ้ามีโอกาสกลับมาอีกครั้งแน่นอน ^^