-My Journey- Japan - ญี่ปุ่น TRAVEL - exciting experiences

Shirakawago – เที่ยวชิราคาวาโกะ มรดกโลกที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา [CR]

ชิราคาวาโกะ เมืองมรดกโลกถูกที่โอบล้อมด้วยภูเขา

ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หรือหมู่บ้าน โอกิมาจิ (Ogimachi Village) มีอายุกว่า 250 ปี ซึ่งยูเนสโก้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1995 เอกลักษณ์ของหมู่บ้านนี้คือ บ้านทรงกัสโชสึคุริ เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ออกแบบพิเศษด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน ให้มีความแข็งแรงทน และสามารถจัดการกับหิมะในฤดูหนาวได้ดี เพราะการสร้างหลังคาให้ลาดชันแบบนี้เพื่อให้หิมะที่ตกลงมาทับถมกันหนักตกลงไปข้างล่างตามธรรมชาติ ที่สำคัญหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ถูกห้อมล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน ทุกครั้งที่ผมได้เห็นรูปก็รู้สึกว้าอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักที วันนี้จะไปทำตามฝันครับ



วิธีการเดินทาง จากทาคายาม่า ไป ชิราคาวาโกะ

30/01/17
นั่ง Nohi Bus จาก Takayama Station : เวลา 09:50 ไป Shirakawago : เวลา 10:40 (Round Trip ¥4,220)
นั่ง Highway Bus จาก Takayama ไป Osaka (¥4700)


เลือกนอน Airbnb รับส่วนลด 1,371 บาท

เมื่อสมัครบัญชี Airbnb ใหม่ ด้วยลิงค์นี้ แล้วจองห้องพัก Airbnb ด้วยลิงค์นี้ >>  <<

รายละเอียดเพิ่มเติม >>


ค่าใช้จ่าย(ต่อคน)

นั่ง Nohi Bus จาก Takayama ไป Shirakawago Round Trip -¥4,420
Bus ขึ้นจุดชมวิว -¥800
ไอศกรีมชาเขียว -¥300
Nikunanban Soba -¥780
Locker -¥500
Highway Bus Takayama-Osaka -¥4700



ที่ ทาคายามะ หลังจากเที่ยวตลาดเช้าหาของกินรองท้องเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางไปชิราคาวาโกะ สามารถเดินทางจากทาคายามะด้วยรถบัส เพื่อไม่ให้ต้องต่อคิวนาน สามารถซื้อล่วงหน้าได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วที่ Nohi Bus Center (Round Trip ¥4,420) โดยตั๋วจากทาคายามะ จะระบุแค่วันที่ ส่วนที่นั่งจะเป็นแบบ Open-seating ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า จะไปรอบไหนก็ได้ แต่ผมเลือกออกแต่เช้า เพื่อให้มีเวลาเดินเล่น และกลับมาที่ทาคายามะเพื่อเดินต่อได้ทัน

ที่ Nohi bus Center จะมีตู้ล็อคเกอร์หลากหลายขนาด สำหรับฝากกระเป๋า หากไป ชิราคาวาโกะ ก็สามารถ Check out แล้วเอากระเป๋ามาฝากไว้ได้ กลับมาปุ๊บจะได้เดินทางต่อได้เลย


เนื่องจากเป็นตั๋วที่ไม่ได้ระบุเวลาและที่นั่ง เพราะฉะนั้นมาก่อนได้ก่อนครับ แนะนำให้มาก่อนเวลาสัก 15 นาที ผมไปพอดีๆ ปรากฎว่าคิวยาวมากๆ แต่โชคดีได้ขึ้นคนเกือบสุดท้าย ไม่งั้นต้องรอคันต่อไป การเดินทางจากทาคายาม่า มา ชิราคาวาโกะ ใช้เวลา 50 นาที โดยรถจะขับขึ้นเขาวนไปเรื่อยๆ ชมวิวได้ชิวๆดีเหมือนกัน

ไม่นาน รถก็มาถึง ชิราคาวาโกะ ก็เดินตามๆเค้าไป เพราะหมู่บ้านอยู่ใกล้ Bus Station นิดเดียว
มุมมองจากถนน บ้านเรือนก็ดูปกติ แต่ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาๆ
แม้แต่ต้นไม้ก็มีละอองหิมะเกาะ บรรยากาศสวยแปลกตา อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้บ้าง

ในหมู่บ้านจะมีทางเดินให้เราเดินเล่น ชมวิวหิมะสลับกับลำธารใสๆแบบนี้
นกตัวเล็กๆ กลุ่มนึง ยืนจมอยู่บนหิมะ ท่าทางจะหนาวขาน่าดู

พื้นที่ใกล้เนินเขาก็จะเป็นลานหิมะโล่งๆ นักท่องเที่ยวหลายคนสนุกกับการเล่นหิมะหนาๆ แต่เนื่องจากผมชุดไม่ได้พร้อมขนาดนั้น เลยอดเล่นไปตามระเบียบ

หลังคาขนาดใหญ่ ที่มีโครงสร้างซับซ้อน สร้างด้วยวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติ แต่มีีความทนทานรับน้ำหนักหิมะในฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี
  
ระหว่างเดินเหนื่อยๆ ก็จัดไอศกรีมชาเขียวสักโคน ความฟินคือ ไม่ต้องรีบกิน เพราะอากาศหนาวจนไอศกรีมไม่ละลาย ^^


Wada House

มาถึงหมู่บ้านชิราคาวะโกะแล้ว จะชมแต่วิวและนอกบ้านก็คงไม่ได้ เลยขอแวะบ้านวาดะ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ของตระกูลเศรษฐีญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่หมู่บ้านโอกิมาจิ แห่งชิราคาวาโกะ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองและตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ เก็บโครงสร้างสถาปัตยกรรมดั้งเดิมรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านไว้ทั้งหมดให้พวกเราได้ชมกัน



(ค่าเข้าชม Wada House¥300)


เตากลางบ้าน ที่มีฟืนจุดไฟอยู่จริงๆ นั่งผิงไฟคลายความหนาวเพลินเลย

หิ้งพระที่อยู่บริเวณชั้น 1 ของบ้านเช่นกันชั้น 2 ของบ้าน ต้องเดินขึ้นบันไดที่ค่อนข้างชัน (ต้องระวังมากๆ) ซึ่งบนนี้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก มีการจัดแสดงของใช้ และสามารถเห็นโครงสร้างของบ้านได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาศัยภูมิปัญญาชาวบ้านในการยึดเสาะและคานไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้เชือกช่วยเพื่อเพิ่มความแข็งแรง โดยไม่ต้องใช้อิฐ ปูน หรือตะปูเลย

 
ข้าวของเครื่องใช้ ถูกจัดไว้เป็นหมวดหมู่ ทุกชิ้นเป็นของดั้งเดิมและทำจากวัสดุธรรมชาติ


ชมวิวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ จากมุมมหาชน

ภาพที่คุ้นตาของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ คือหมู่บ้านหลังคาทรงสูงหลังเล็กๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เหมือนเป็นหมู่บ้านในเทพนิยายหรือนิทานสักเรื่อง ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็น เราจะขึ้นรถบัสเพื่อมายังจุดชมวิวนี้ครับ

จุดขึ้นรถบัส อยู่ในหมู่บ้าน จะมีป้ายสีเขียวและตารางเวลาที่ชัดเจน สังเกตง่ายๆเพราะจะมีคนยืนเข้าคิวกันตลอดเวลา รถจะคันเล็กๆ แทบจะหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว

แล้วรถก็พาเราค่อยๆไต่ภูเขาขึ้นไป ไปยังจุดที่สามารถชมได้ครบทั้งหมู่บ้าน

เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอกับวิวนี้แล้ว สวยมากๆ บรรยากาศดูอบอุ่น เหมือนอยู่ในเทพนิยายจริงๆ
บอกเลยว่าทุกคนที่มาถึง ก็จะถ่ายได้มุมแบบเดียวกันเป๊ะ เพราะเค้าเซ็ตมาให้แล้ว แต่หากใครอยากมีรูปตัวเองคู่กับวิว ก็สามารถใช้บริการถ่ายภาพของเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน โดยจะได้ไปถ่ายที่มุมที่พิเศษกว่า คนไม่เยอะ (เข้าได้เฉพาะผู้ที่ใช้บริการเท่านั้น)

สำหรับผม ประทับใจมากๆกับการมาเที่ยวชิราคาวาโกะครั้งนี้ บอกเลยว่าไม่ว่ารูปที่เห็นจะสวยแค่ไหน ก็ไม่เท่ามาเห็นด้วยตาตัวเอง

เก็บความประทับใจ ซึมซับบรรยากาศจนพอใจ ก็ถึงเวลาเดินทางกลับผมเดินกลับมาตั้งต้นที่ Bus Station อีกครั้ง เพื่อขึ้นรถบัส จาก ชิราคาวาโกะ กลับ ทาคายามะ ตามเวลาที่เลือกไว้

ผมตั้งใจออกรอบ 14.35 เพื่อถึงทาคายามะ 15.25 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายที่จะทันเวลาในการเดินทางไปเมืองถัดไป แต่.. ผมลืมสังเกตว่าในตารางเวลาขากลับ มีตัว R (Reservation required) ทุกช่วงเวลา แปลว่าต้องจองที่นั่งล่วงหน้า.. ซึ่งมีคนจองไว้เต็มแล้ว แต่ยังโชคดีที่ยังไปยืนเก้ๆกังๆ ข้างๆรถ และมีคนที่จองไว้แต่ไม่มาขึ้นรถตามเวลา เลยโชคดีได้ขึ้นรถรอบนี้! (ถ้าถอดใจแล้วไปนั่งเศร้าที่อื่นคงพลาดรถรอบนี้ไปเลยจริงๆ)

สุดท้ายก็มาทันเวลา ขึ้น Highway Bus เพื่อเดินทางไปยัง Osaka

ออกจาก Takayama ด้วยบรรยากาศที่หงอยๆแบบนี้ พระอาทิตย์ตกค่อนข้างเร็ว กลับไปต้องคิดถึงที่นี่มากแน่ๆ


รีวิว พาเที่ยวญี่ปุ่น อื่นๆ


เที่ยวตลาดปลา Tsukiji ชมการประมูลปลาทูน่า


TSUKIJI TORI-TOH ร้านข้าวหน้าไก่@ตลาดปลา Tsukiji


Daiwa Sushi @ตลาดปลา Tsukiji


Snow Monkey Park ดู ลิงหิมะแช่ออนเซ็น (Jigokudani-地獄谷)


เล่นสกีครั้งแรก เรียนสกี ที่ Ryuoo Ski Park ญี่ปุ่น


Mt Fuji ภูเขาไฟฟูจิ – สูดหายใจให้เต็มปอดรอบทะเลสาบ คาวากุจิโกะ


Takayama – เที่ยวทาคายาม่า ชมเมืองโบราณ ชิมเนื้อฮิดะ


Shirakawago – เที่ยวชิราคาวาโกะ มรดกโลกที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา

About the author

Max

Add Comment

Click here to post a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Posts

%d bloggers like this: