“Exclusive Holiday ช่วงเวลาแห่งความสงบสุขสุดพิเศษ”
ชวนทิ้งความวุ่นวายไว้ข้างหลัง แล้วเอนตัวลงนอนในมุมสงบๆ ที่โรงแรม Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต เหมาะกับวันที่ไม่ออยากเที่ยวเมืองตื้ดๆ หรือเดินเยอะๆ เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใกล้สนามบิน ห่างจากตัวเมืองพอสมควร ก็เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องขับรถบนถนนสุดวุ่นวาย (ใครจะอยากหนีรถติดจากกรุงเทพฯไปติดที่ภูเก็ตแทนหละ จริงมั้ย) และสิ่งที่ได้มาคือความเงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ไม่มีนักท่องเที่ยวจอแจ แค่เริ่มต้นก็รู้สึกได้เลยว่าช่วงเวลาของการพักผ่อน มาถึงแล้ว ที่ โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยางบีช
ซึ่งทางโรงแรมได้เตรียม รถลีมูซีน มารับ เพื่อไปส่งที่โรงแรม เท่ไม่เบา
ภายในรถมี wifi เครื่องดื่ม และผ้าเย็นคอยต้อนรับ ช่วยปรับอารมณ์ก่อนถึงที่พัก ซึ่งการเดินทางจากสนามบินใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น แล้วรถก็พาเข้ามาในเขตรั้วโรงแรม แต่ก่อนจะเห็นทะเล เราก็ได้เห็นต้นไม้เขียวๆ แน่นๆ และภูเขาสีเขียวขนาบข้าง สบายตามากๆ
โรงแรมตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ติดหาดในยาง กับหน้าหาดกว้างๆไกลสุดตา ทุกมุมของโรงแรมจะเจอกับ นกกรงหัวจุก นกท้องถิ่นของภาคใต้ ที่ถูกนำมาเป็นพระเอกของที่นี่ ตกแต่งในท่าทางที่แตกต่างกันไป
อาคารเป็นแบบ Open Air โปร่ง สบายตา เปิดรับแสงธรรมชาติและลมสบายๆริมทะเล พร้อมสระน้ำล้อมรอบเพิ่มความสดชื่น เป็นการเลือกใช้การออกแบบสไตล์ทรอปิคอลไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว อาคารเลือกใช้โทนสีอ่อน และสีไม้ ตัดกับภูเขาและต้นไม้สีเขียวรอบๆ
ที่ Lobby วันนี้เงียบสงบ เหมือนเป็น Lobby ส่วนตัวยังไงยังงั้น เฟอร์นิเจอร์หลายมุมให้เลือกนั่งได้สบายๆ หมอนสีฟ้าเพิ่มความสบายตา
ทันทีที่นั่งลง ก็มี Welcome Drink มาเสิร์ฟตรงหน้า เป็นน้ำอัญชัญเย็นสดชื่น
อาคารหลักมี 3 ชั้น ล้อมด้วยห้องพัก และภูเขากับป่าไม้ที่ทำหน้าที่เป็นแบคกราวน์เท่ๆ อาคารเลยสง่าเข้าไปอีก
ห้องพักแบบ Garden Cabana Pool Access Room
จาก Lobby การเดินมาที่พักต้องเดินลงบันไดเยอะพอสมควร เลยแอบติดรถ Bell boy มาที่ห้องพักพร้อมกระเป๋าสัมภาระทั้งหมด ห้องพักคืนนี้เป็นแบบ Garden Cabana Pool Access ซึ่งมีความพิเศษที่มีสวนและ cabana ส่วนตัวให้สามารถนั่งเล่นชิวๆ รวมถึงเชื่อมต่อไปยัง Lagoon หรือสระว่ายน้ำขนาดยาวได้ทันที ห้องขนาดใหญ่กำลังดี ก้าวเข้าห้องเจอกับแอร์เย็นเจี้ยบ ที่รอต้อนรับเราอยู่
ผนังห้องฝั่งนี้ตกแต่งด้วย ไม้ฉลุลายนกกรุงหัวจุก สีขาวเท่ๆ
ในห้องเลือกใช้โทนสีขาว ครีม น้ำตาล ในดีไซน์เรียบหรูแต่แฝงด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น หวายสาน ผิวไม้ เพื่อสะท้อนความเป็นท้องถิ่น
อ่างอาบน้ำเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยกระจกใสกั้น ซึ่งจะมีฉากกั้น สามารถเปิด-ปิดได้
ชุด Amenities ที่นี่เลือกใช้แบรนด์ THANN เครื่องหอมแบรนด์ไทยที่ดังไปทั่วโลก กับกลิ่นธรรมชาติ เพิ่มความผ่อนคลาย สดชื่น กระปี้กระเป่า
หันไปเห็นบนโต๊ะ ทางโรงแรมก็ได้เตรียมเค้กกับผลไม้อร่อยๆไว้ต้อนรับ ขอจัดขนมเค้กก่อนเลย
Garden Cabana Pool Access Room ด้านหลังห้อง จะเป็นสวนส่วนตัวสีเขียวร่มรื่น พร้อม cabana ขนาดใหญ่ที่นอนได้ 2 คน ใต้ต้นไม้ ช่วงเช้าๆจะเหมาะมากกับการมานั่งเล่น อากาศสบายกำลังดี หนังสือสักเล่มแค่นี้ก็พอแล้ว ถัดจาก cabana นี้ไปจะเป็น Loop swimming pool สระว่ายน้ำยาวเชื่อมกันรอบรีสอร์ท ตอนนี้เริ่มสับสนว่าฝั่งไหนเป็นหน้าห้อง เพราะระเบียงตรงนี้แย่งซีนไปจนหมดแล้ว
สามารถเล่นน้ำได้เพลินๆ หรือใครฟิตมากจะว่ายยาวตลอดแนวก็ไม่ว่ากัน เห็นแล้วอยากกระโดดลงไปแช่น้ำจริงๆ
จากฝั่งห้องพักของผมก็สามารถทักทายห้องพักในอาคารฝั่งตรงข้ามได้ด้วย
Dinner ที่ห้องอาหาร Big Fish
หลังจากเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง พักผ่อนนิดหน่อย ก็ถึงเวลาของอาหารเย็น คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า Dinner ริมทะเล ห้องอาหาร Big Fish ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 1 ริมหาด มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor เหมาะกับช่วงเวลาชิวๆเป็นที่สุด แต่มื้อนี้ผมเลือกเป็นในห้องแอร์ เพราะลมค่อนข้างแรงเดี๋ยวอาหารปลิวหมด
อาหารมีให้เลือกหลากหลายถูกใจแขกทุกเชื้อชาติ แต่เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือ Seafood Grill ก็เราอยู่ในแหล่งอาหารทะเลแล้วเนอะ
ขนมปังถูกเสิร์ฟให้กับทุกโต๊ะ ไว้ทานรองท้องระหว่างเลือกเมนูและระหว่างรออาหาร
Crab Cake หรือเรียกง่ายๆ ก็ ทอดมันปูเสริฟมาบนอาจาด พร้อมด้วยน้ำจิ้มหวาน ถึงหน้าตาจะไม่มีอะไรหวือหวา แต่บอกเลยว่ารสชาติดีมาก ผิวกรอบไส้ในยังชุ่ม อัดแน่นไปด้วยเนื้อปู กลิ่นดีมาก เครื่งเทศ และกลิ่นปู เข้ากัน เป็นเมนูเด่นประจำร้านนี้เลย ถ้ามีโอกาสมาไม่ควรพลาด
ซุปทรัฟเฟิล มาพร้อมขนมปังกรอบ มาในชามใหญ่เลยทีเดียว กลิ่นมาเต็มมากน่าจะมาจากน้ำมันทรัฟเฟิล รสอ่อนไปหน่อย พอใส่เกลือเพิ่มก็อร่อยขึ้นเยอะเลย อีกจานคือ ข้าวรีซอตโต้หอยเชลล์ ทำมาได้ดีมากหอยยังคงชุ่มฉ่ำมีรสหวานไม่แข็งกระด้าง ตัวข้าวสุกกำลังดีไม่เละ
กุ้งลายเสือเผา คือสดมาก ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เผาก็อร่อย น้ำจิ้มใช้ได้ ถึงแม้ไม่เผ็ดมากแต่ก็ครบรส
กั้งเผาสดพอได้แต่ไม่ถึงกับสดมาก อีกจานคือสลัดเนื้อแบบญี่ปุ่นเนื้อดี สุกแบบแรร์ ทานกับซอสพอนสุ เนื้อชื่นใหญ่จุใจมาก ทานคู่กับผักกรอบๆ เข้ากันกับซอส จานสุดท้ายคือฟัวกราส์ แอบเสียดายนิดๆ ที่ไหม้ไปสักหน่อย เครื่องเคียงดี ซอสดี เสียดายที่ติดรสขมของส่วนที่ไหม้ ไม่งั้นคงจะปลื้มมาก
อยากบอกว่าร้านนี้ทำของหวานได้ประทับใจมาก ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมนู ช็อคโกแลต จานนี้ลงตัวมากๆทานคู่กับชาร้อนๆ รับประกันความอร่อย
ตรงข้าม Restaurant ยังมีส่วนของ Bar ริมทะเล ที่มีแขกมานั่งเล่น นั่งชิว อยู่เรื่อยๆ
Earth Hours วันนี้ช่วง 20.30-21.30 น. เป็นช่วงเวลาที่ กว่า 4,000 เมือง ใน 126 ประเทศ พร้อมใจปิดไฟให้โลกพัก ลดการใช้พลังงานโดยใช้เท่าจำเป็น เลยได้ใช้ช่วงเวลาตรงนี้นั่งชิวที่ Bar พร้อมเครื่องดื่ม Cocktail ที่เป็น Signature แสนอร่อย เพิ่มความสดชื่นหลังมื้ออาหาร พร้อมรับลมทะเลตอนกลางคืน คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องวิวทะเล .. เพราะตอนนี้มืดจนไม่เห็นอะไรแล้ว ช่วงเวลากลางคืน บรรยากาศในโรงแรมก็สวยไปอีกแบบ ส่วนนี้เป็นส่วนของโถงต้อนรับ จะเจอกับนกกรงหัวจุก กำลังเล่นน้ำอยู่ในสระทรงครึ่งวงกลม ถือเป็นการทักทายแขกทุกคนด้วยเสียงน้ำไหล เหมือนจะบอกว่าถึงเวลาพักผ่อนแล้ว ให้ทิ้งความเครียดแล้วมามีช่วงเวลาดีๆที่นี่กันเถอะทั้งที่วันนี้เดินทางมาไกล ถึงเวลาพักผ่อนพักผ่อนแล้ว
ทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหาร The Andaman Kitchen
เช้านี้แอบตื่นสายนิดหน่อย ประมาณ 9 โมง เลยรีบตรงไปที่ห้องอาหาร The Andaman Kitchen เพื่อทานอาหารเช้า ที่นี่เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ที่หันกระจกด้านยาวรับแสงธรรมชาติ ตกแต่งอย่างสวยงามด้วย Pattern ลายท้องถิ่น แต่ยังคงมีความหรูหราอยู่ ไลน์อาหารมีความหลากหลายและมีการเติมตลอดเวลา จึงได้อาหารร้อนๆมากินทุกครั้งที่ไปตัก
ผมเลือก Jusmin green tea สำหรับมื้อเช้าวันนี้
เมนู Signature ที่อยากแนะนำคือ Crab curry omelette ออมเลทที่ราดด้วยน้ำยาปู หอม มัน ชุ่มฉ่ำดี ห้ามพลาดของ โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยางบีช
มุมเครื่องดื่มนอกจากจะชา กาแฟ แล้ว สามารถสั่งน้ำสกัด หรือน้ำปั่นได้ด้วย
The Lounge
ที่ The Lounge เป็นอีกร้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Lobby เป็นที่ที่เหมาะมากสำหรับแขกที่กำลังรอเวลาขึ้นเครื่อง หรือรอเดินทาง สามารถใช้เวลาชิวๆอยู่ที่นี่พร้อมอาหารและเครื่องดื่มรองท้องให้บริการ
ชุดนี้ได้ทั้งเนื้อและฟัวกราส์ เสิร์ฟคู่กับเฟรนช์ฟรายด์ เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่จนน่าตกใจ สำหรับผมถือว่าไม่แพงเลยกับอาหารในโรงแรม ถ้าใครกินน้อยชิ้นนี้แบ่งทาน 2 คนยังได้เลย เนื้อบดนุ่มชุ่มฉ่ำหอมอร่อย เพิ่มความละมุนด้วยฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ หนา สุกกำลำลังดี ลงตัวมากๆ
เฟรนช์ฟรายด์ เลือกเปลี่ยนจาก Classic salted fried เป็น Truffle Fries ขนาดใหญ่ได้
Naiyang club sandwich 340
Sirloin steak sandwich 420
จุดพระอาทิตย์ตกจาก Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach
การนอนทะเลก็มักจะคาดหวังว่าจะได้เล่นน้ำเล่นทรายได้ทั้งวัน แต่ที่นี่ต่างจากที่อื่นตรงที่บางช่วงน้ำทะเลจะหายไปเลย โดยแต่ละวันจะขึ้น-ลง ต่างเวลากัน ทางโรงแรมก็จะมีตารางน้ำขึ้น น้ำลงมาให้ จะได้กะเวลาเล่นน้ำได้เหมาะๆ และการชมพระอาทิตย์ตกก็เป็นส่ิงที่ห้ามพลาด
ช่วงเวลาเย็นๆแบบนี้เหมาะมากกับการเดินเล่นที่ชายหาดเพราะเป็นจังหวะที่น้ำลด สำหรับสาย Romantic สามารถเดินเลียบหาดและโขดหิน ไปสู่เกาะเล็กๆเกาะนึงที่อยู่ไม่ไกล จุดนี้เป็นจุดที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกจริงๆ
การเดินไปยังจุดชมพระอาทิตย์ตก สามารถเดินเลียบหาดไปได้ แต่แมลงบินไปมาก็ค่อนข้างเยอะ และต้องเดินลัดเลาะโขดหินอีกนิดหน่อย ถึงจะดูเดินเยอะแต่วิวที่ได้รับรองว่าคุ้มมากๆ
ภาพสุดท้ายหลังจากเลี้ยว ก็จะเจอกับมุมนี้เลย จังหวะที่ผมมาเลือกเวลาได้พอดิบพอดี คลื่นลมสงบๆ นิ่งๆ พระอาทิตย์ค่อยๆตกลงไป พร้อมเงาสะท้อนน้ำเท่ๆ นิ่งๆ หลังจากเก็บบรรยากาศจนอิ่มใจ ก็ต้องรีบกลับก่อนที่จะพระอาทิตย์ตกและมองอะไรได้ยากขึ้น
บุฟเฟ่ต์อาหารไทย ที่ห้องอาหาร The Andaman Kitchen
ห้องอาหาร Tha Andaman Kitchen เป็นแบบ All day dining เย็นวันนี้ถูกรับมาให้บริการอาหารไทย ซึ่งมีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และ A la carte หลังจากที่ดูเมนูเทียบกันแล้ว เมนูแทบจะเหมือนกัน เลยเลือกแบบบุฟเฟ่ต์ละกัน จะได้ชิมหลากหลายหน่อย
ขนมจีนน้ำยาปู อาหารท้องถิ่นน่ากินมาก ถูกเตรียมไว้ยั่วใจแขกตั้งแต่ทางเข้าเลยทีเดียว
อาหารประเภทยำ ทำออกมาได้ดี เนื้อสุกกำลังดี รสจัดจ้านแบบที่คนไทยยังชอบอยู่ และต่างชาติก็สามารถทานได้
เมนูปิ้งย่างและทอด น่าจะถูกใจสายสตรีทฟู้ดส์
เมนูแกง ทาง The Andaman Kitchen ได้เตรียมไว้ให้ประมาณ 3-4 อย่าง แต่รสชาติยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่เลยขอเปลี่ยนไปกินอย่างอื่นแทน
สลัดผักและผลไม้สดๆ ถูกเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน
ขนมไทยหลายชนิดก็เตรียมมาสร้างความประทับใจให้แขกทั้งคนไทยและต่างชาติ
สรุปความประทับใจ
การมาพักผ่อน Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach ครั้งนี้ เป็นการทิ้งความเครียด ความวุ่นวายแล้วมาพักผ่อนแบบเต็มที่จริงๆ ประทับใจอาคารและการตกแต่งที่ดูโปรงโล่งสบายตา เปิดรับลมและแสงแดดธรรมชาติในทุกส่วน พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสดูแลกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงห้องพัก Garden Cabana Pool Access Room ที่ดูทันสมัยและเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ตรง Cabana ที่สามารถนอนอ่านหนังสือได้แบบชิวๆ ถ้ารู้สึกเริ่มร้อนก็แค่เปลี่ยนชุดแล้วกระโดดลงสระได้ทันที ห้องสะอาดเป็นสัดเป็นส่วน
อาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Andaman Kitchen ก็เตรียมอาหารมาให้ครบถ้วน หลากหลาย พร้อมเมนู Signature เป็นออมเลทน้ำยาปู หอม มัน แปลกดี รวมทั้งมีน้ำมะพร้าวน้ำสกัด ที่สามารถสั่งได้พิเศษ และบุฟเฟ่ต์อาหารไทยตอนเย็นก็มีให้เลือกหลากหลาย เมนูแกงรสชาติอ่อนไปหน่อย แต่เมนูยำอร่อย จัดจ้าน ครบรส ส่วนห้องอาหารที่บรรยากาศดีที่สุดจะเป็น Big Fish Restaurant & Bar ได้ลองชิมไปหลายเมนู ที่ชอบที่สุดจะเป็นกุ้งย่าง และกั้งกั้ง กับน้ำจิ้มแสนอร่อย แต่เมนูฟรัวกราส์ออกจะไหม้ไปหน่อย แต่โดยรวมก็ทำให้ผมประทับใจมาก และการได้นั่งจิบคอกเทลในส่วนของ Bar ในช่วง Earth Hours วันนี้ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้มากเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้ทำระหว่างวัน เช่น โยคะสำหรับผู้เริ่มต้น มวยไทย ฟุตบอลชายหาด ซึ่งมีการแบ่งวัยไว้อย่างเหมาะสม (บางกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) หากกำลังหารีสอร์ท หรือโรงแรมที่ภูเก็ต และต้องการความสงบ ผ่อนคลาย แนะนำ Phuket Marriott Resort and Spa Nai Yang Beach ที่นี่เลยครับ รับรองไม่ต้องแออัดวุ่นวายกับฝูงชน พร้อมเก็บความผ่อนคลายกลับบ้านได้เต็มๆ
Add Comment