“เกาะเต่า Complete Trip”
เกาะเต่า เกาะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไปน้อยมากๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นี่คือสวรรค์เลยหละครับ ที่เกาะเต่ามีที่พักตั้งแต่ Hostel จนถึงรีสอร์ทหรู สิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 7-eleven ร้านอาหาร คาเฟ่ชิคๆกับวิวพอยท์ที่สวยงามเฉพาะตัว สำหรับผมเกาะเต่าเป็นเมืองย่อมๆ แต่ไม่วุ่นวาย ทุกคนชิว เหมาะมากกับการพักผ่อนจริงๆ ทริปนี้มีเวลา 4 วัน 3 คืน มาดูกันว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง รับรองว่าน่าสนใจสุดๆ
ทริปนี้ผมมีมาเที่ยวเกาะเต่าด้วยการสนับสนุนจาก The Islander Thailand ซึ่งให้บริการจัดทริปบนเกาะเต่าแบบ Customize ได้ ตามความต้องการของเรา ไม่ว่าจะชอบเที่ยวสไตล์ไหน งบประมาณเท่าไหร่ เค้าจัดให้ได้หมด ในราคาที่พอๆกันกับการจองผ่าน Website ด้วยตัวเอง แต่สะดวกและง่ายดายกว่ามาก
การเดินทางไปเกาะเต่า
ใช้เวลาเดินทางระหว่าง ชุมพร-เกาะเต่า ประมาณ 3 ชั่วโมง
ขาไป
ขึ้นเรือ : ชุมพร-เกาะเต่า ด้วยเรือลมพระยา รอบ เวลา 13.30 – 15.15 น. (600 บาท) รถบัสจากสถานีรถไฟชุมพรไปท่าเรือ (100 บาท)
ขากลับ
ขึ้นเรือ : เกาะเต่า-ชุมพร ด้วยเรือส่งเสริมทัวร์ รอบ เวลา 14.30 น. – 17.30 น. (500 บาท รวมรถไปสถานีรถไฟชุมพร)
*ผมขึ้นเรือคนละบริษัท เพื่อลองเปรียบเทียบดู พบว่าเรือลมพระยาลำใหญ่จุคนได้มากกว่า และแพงกว่า มีออฟฟิศอยู่ที่สถานีรถไฟชุมพร
ส่วนส่งเสริมทัวร์ ลำเล็กกว่า ราคาถูกกว่าและ รวมบริการรถรับส่งไปยังสถานีรถไฟชุมพรด้วย
*หากใครอยากเดินทางให้ไปถึงเกาะเต่าตั้งแต่เช้า สามารถเลือกใช้บริการเรือนอน ได้เช่นกัน (ราคาประหยัดกว่าด้วย)
ตลอดทริปนี้โชคดีมาก อากาศดี ฟ้าใสสุดๆ นั่งเรือลมพระยาไปเกาะเต่า ระหว่างทางมีการแวะเกาะนางยวน เพื่อรับนักท่องเที่ยวขึ้นเรือไปยังเกาะเต่าด้วย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงเกาะเต่าแล้ว
ที่หาดทรายรี เป็นหาดทรายที่กว้างและน้ำทะเลที่ไม่ลึกมาก ช่วงเย็นๆเลยมีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะครอบครัวที่จะพาเด็กๆมาเล่นทราย ทำกิจกรรมจุดนี้เหมาะมากกับการชมพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าเป็นสายชิวก็จะมีบาร์ให้ให้เลือกนั่งได้ชิวๆ
เผลอแป๊บเดียวพระอาทิตย์ก็ตกดิน ฟ้าเปลี่ยนสี ทำให้ชายหาดดูมีสีสันเข้าไปใหญ่
ถนนคนเดิน เกาะเต่า (Koh Tao waling street)
ที่เกาะเต่าก็มีถนนคนเดินกับเค้าเหมือนกัน ดึกแล้วแต่ยังไม่อยากนอนก็มาที่นี่เดินชิวๆ ดูร้านค้า ดูผู้คน แต่ถ้าเป็นสายดื่มน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะมีบาร์เรียงกันเป็นตับและถ้าจะชิวไปกว่านั้นก็สามารถเดินเชื่อมไปยังชายหาด ไฮไลท์ก็คงหนีไม่พ้นบาร์ริมหาด เพลงตื้ดๆ และการแสดงควงไฟ เป็นอีกสีสันของการไปเที่ยวเกาะ ที่ห้ามพลาด
Blue Heaven อิ่มอร่อยกับวิวหลักล้าน
เกาะเต่าเป็นอีกเกาะที่มี View Point เยอะมาก และแต่ละจุดจะมีความสวย ความพีคในแบบของตัวเอง คิดว่าต้องใช้เวลาหลายวันถ้าจะเก็บทุกจุด สุดท้ายก็เลือกที่ Blue Heaven ซึ่งเป็นร้านอาหารด้วยเหมาะกับการกินอาหารเย็นพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดิน
สำหรับอาหารที่สั่งมาวันนี้ก็ต้องเน้น กุ้ง หอย ปู ปลา แต่ละเมนูก็รสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง โดยเฉพาะแกงส้มแบบปักใต้ อร่อยมากจริงๆ สำหรับราคาก็ถือว่าไม่แรงมาก แต่ละจานก็จานใหญ่พอสมควร ถ้ามากันหลายๆคนก็จะกินได้หลายๆอย่าง
Coconut Monkey ร้านอาหารออแกนิค เพื่อสุขภาพ
ในช่วงเช้าๆ แนะนำให้มากินที่ร้าน Coconut Monkey ซึ่งเป็นคาเฟ่ Organic อยู่ริมทะเล ไม่ไกลจากท่าเรือ ในร้านที่ดู Tropical ร่มรื่น
เข้าไปในสุดจะได้วิวริมทะเล ไหนๆมาเกาะแล้ว ขอกิน Breakfast ริมทะเลสักหน่อย
Half day trip ดำน้ำ ดูปะการังน้ำตื้น
ปกติถ้าพูดถึงเกาะเต่า ก็มักจะคู่กับเกาะนางยวน เพราะอยู่ใกล้กันนิดเดียว (ที่จริงขามาเรือก็มาจอดหน้าเกาะ เห็นหาดแว๊บๆ สวยมากก แบบนี้จะพลาดได้ไง! เลยหาทริปดำน้ำตื้น แบบครึ่งวัน กับ Oxygen Tour ซึ่งเราจะได้ไปเกาะนางยวนด้วยเลย
มีให้เลือก 2 แบบ ทั้งแบบ Full Day และ Half Day
Full Day 10.00 – 17.00 น. ราคาคนละ 600 บาท / Half Day 12.00 – 18.00 น. ราคาคนละ 500 บาท
ราคานี้รวมประกันการท่องเที่ยว รถรับ-ส่ง, อุปกรณ์ดำน้ำ, ข้าว 1 มื้อ, ขนม ผลไม้ และเครื่องดื่ม
ราคายังไม่รวมค่าขึ้นเกาะสำหรับคนไทย 30 บาท (ต่างชาติ 100 บาท)
รถมารับที่ที่พักประมาณ 11.30 น. เพื่อไปยังออฟฟิศซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ จากนั้นก็เช็คอิน เซ็นรับอุปกรณ์แล้วพากันไปลงเรือ .. เกาะแรกที่ไปวันนี้คือเกาะนางยวน แดดดีมากกกกก ฟ้าใสสุดๆ
เกาะนางยวนถือเป็นอีกเกาะที่มีชายหาดสวยติดอันดับต้นๆของโลก กับรูปทรงและการเชื่อมต่อกันที่สวยแปลกตา ซึ่งทางทัวร์จะมีเวลาให้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที สามารถเลือกเดินได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ Japanese Garden หรือ ขึ้นมายัง View Point เพื่อชมวิวเกาะนางยวนจากจุดที่สวยที่สุด แบบนี้
รวมถึงจุดดำน้ำต่อไปนั่นคือ อ่าวหินวง อ่าวลึก และ Shark bay ซึ่งแต่ละจุดก็จะสวยและน่าสนใจต่างกัน แต่ภาพที่ประทับใจสุดคือเจ้าเต่าตัวนี้ ตัวโตมากกก เลยตัดสินใจกลับขึ้นเรือไปหยิบโทรศัพท์ที่ใส่ในถุงซิปล็อคมาถ่าย และจับภาพจังหวะที่เค้าขึ้นมาหายใจได้สำเร็จ! ฟินแล้ว ถือว่ามาถึงเกาะเต่าโดยสมบูรณ์
Zyco Rooftop at Thana Align
มาแล้วก็อยากจัดโมเมนท์ดีๆสักมื้อ กับดินเนอร์สุดหรู ที่ Zyco Rooftop, Thana Align Hotel ที่นี่เราสามารถ Enjoy ทั้งอาหารอร่อยๆ และเครื่องดื่มสูตรพิเศษจาก Mixologist ที่มาเสิร์ฟ เพิ่มความละมุนละไม ให้กับบรรยากาศบน Rooftop ได้ดีทีเดียว
“ลองดำน้ำลึกแบบ Try Diving”
ใครๆก็รู้ว่าถ้าเราดำน้ำลึกแบบ Scuba ได้ เราจะได้เห็นโลกใต้น้ำที่สวย และสดซิงกว่า เหมือนได้เห็นอีกมุมของโลกใบเดิมที่ถูกซ่อนไว้ และที่เกาะเต่าก็เป็นอีกที่ที่ขึ้นชื่อในการเรียนดำน้ำ เพราะคลื่นลมไม่แรง น้ำใส คือเรียนปุ๊บก็ลงทะเลสอบปฎิบัติได้เลย เหมาะกับคนที่มีเวลามากหน่อย แต่ทีเดียวจบ แถมค่าเรียนก็น่าจะเรียกได้ว่าถูกที่สุดในโลกแล้วหละ แต่เนื่องจากผมมีเวลาไม่มากเลยได้ลองดำน้ำแบบ Try diving ซึ่งจะได้ดำน้ำลึกเหมือนกัน แค่ไม่ได้ใบ Certificate เท่านั้นเอง
ครั้งนี้เลือกดำน้ำกับ Koh Tao Scuba Club กับโปรแกรม Try Diving ราคา 3400 บาท ซึ่งจะได้ดำน้ำ 4 Dive ด้วยกัน
Try Diving เป็นโปรแกรมทดลองดำน้ำลึก ใน 1 วัน แบ่ง เป็น 2 ส่วน คือเรียนทฤษฎี ครูจะสอนวิธีและการปฎิบัติที่สำคัญ ต่อด้วยลงสระในช่วงเช้าเพื่อฝึกความเข้าใจ หลังจากนั้นก็ลงใต้ทะเลในความลึกไม่เกิน 12 เมตร
โดยลงเรือลำใหญ่ไปพร้อมกันกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ครูจะพาเราไปในความลึกที่ปลอดภัย ซึ่งอยู่ในระดับที่ยังไม่ยากมากและยังมีปะการังและดอกไม้ทะเลให้ดูเพลินๆ
สำหรับผม ความยากของ Try Diving คือการทำความเข้าใจ ใช้อุปกรณ์ และอย่าตื่นตกใจถ้ามีอะไรผิดปกติ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ถ้าเราปฎิบัติไม่ถูกวิธี เช่น ตกใจแล้วทะลึ่งพรวดขึ้นมาผิวน้ำ หรือการหายใจเข้าออกที่ถี่เกินไป ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกไป ปนกับออกซิเจนที่หายใจเข้า ทำให้ปวดหัวหน้ามืดได้ แต่ยังไงก็ติดใจกับความล่องลอย และความรู้สึกอิสระใต้น้ำ ไว้คราวหน้าจะหาเวลายาวๆ มาเรียนเอาใบ Certificate สักใบ
Big Tree Gallery cafe คาเฟ่ลับๆใต้ร่มไม้ใหญ่
Big Tree Gallery Cafe ร้านเล็กๆบนเกาะเต่า ในบรรยากาศร่มรื่นมากๆ ศาลาไม้ 2 ชั้น ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหาร กลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ ชั้นล่าง เป็นหน้าร้าน และชุดที่นั่งสบายๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ เจอร้อนๆจากข้างนอก เข้ามาในร้านกลายเป็นเย็นสบายไปเลย
ชั้น 2 ก็เป็นศาลาแบบเปิดโล่ง ไม่มีผนังกั้น พร้อมเปล โต๊ะที่นั่ง และหนังสือให้อ่านชิวๆระหว่างรออากาศ บอกเลยว่าอากาศโคตรดี ฝนตกก็ไม่ต้องกลัวลมจะแรงเกินไป เพราะมีต้นไม้ล้อมรอบซะขนาดนั้น
เมนูอาหารที่นี่ก็มีทั้ง กาแฟ ขนม และ Brunch ไว้ให้กิน รสชาติก็อร่อยถูกปาก บรรยากาศดี อะไรก็ดีไปหมด
แนะนำที่พักหลายรูปแบบ เกาะเต่า เลือกได้ตามสไตล์
Pinnacle Koh Tao Resort
Pinnacle Koh Tao Resort เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ที่อ่าวจุนเจือ ซึ่งที่ตั้งก็สมชื่อรีสอร์ท เพราะอยู่บนเขาสูง ขึ้นมายากหน่อย ทางยังเป็นดินแดงและค่อนข้างชัน แนะนำให้ใช้บริการรถของโรงแรมจะดีกว่า แต่ก็คุ้มค่ากับวิวที่ได้ เพราะจากระเบียงเราจะได้ชมทะเลสุดเส้นขอบฟ้าเลย ที่พักเก่าหน่อยแต่ก็มีการดูแลให้อยู่ในสภาพดี และสามารถเดินลงไปเล่นที่หาดได้ด้วย (ตอนลงไม่เท่าไหร่ แต่ตอนขึ้นเล่นเอาหอบเลย)
Bed & Ink Hostel
Bed & Ink Hostel เป็น Hostel เล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ ที่พักมีบาร์อยู่ด้านหน้า เลยมีฝรั่งมานั่งดริ๊งอยู่ตลอดเวลา เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนง่ายๆ เดินทางง่ายๆ แถวนี้ก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกทาน ถือว่าสะดวกมากๆ
มาแล้วอย่าลืมทักทาย มงคล หมูเจ้าถิ่นประจำ Hostel ที่จะเดินไปเดินมาพร้อมส่งเสียงในลำคอตลอดเวลา เป็นหมูเฟรนด์ลี่ ขอมือก็ได้
เดอะ ธนา อะไลน์ รีสอร์ท : The Tarna Align Resort
The Tarna Align Resort เป็นอีกโรงแรมที่มีการออกแบบที่โดดเด่น ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ไกลจากหาดทรายรี การออกแบบอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญมีคลาสสอนดำน้ำในสระลึกที่ได้มาตรฐาน และที่ห้องอาหารสามารถดูวิวได้แบบ Panorama รวมถึง Rooftop Bar สุดชิวที่เหมาะกับการนั่งทอดอารมณ์ ตอนพระอาทิตย์ตกดินด้วย
สมถะ เบด แอนด์ เบรคฟาสท์ : Samatha Bed & Breakfast
Samatha Bed & Breakfast เป็นที่พักสไตล์ Loft สุดฮิป กับการตกแต่งที่น้อยแต่สมเหตุสมผล เลือกโชว์ผิวแท้ๆของวัสดุ ด้านล่างเป็นคาเฟ่ ส่วนด้านบนก็เป็นที่พัก ห้องใหญ่ สะอาด ในบรรยากาศที่อบอุ่น
Add Comment