“ถ้ามีโอกาสก็อยากมาลองใช้ชีวิตที่นิวยอร์คอีกสักหน่อย”
เมื่อถึงวันที่อย่ากมี Year gap หรือช่วงที่พักผ่อน เปิดหูเปิดตา เปิดโลกให้กว้างขึ้น ก็ตัดสินใจมา เรียนภาษา ที่อเมริกาละกัน เลยอยากเขียนบันทึกในหมวด [Long Journey – ลองเจอนี่] ไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจ ที่จริงในใจมีหลายรัฐที่เลือกไว้ ไม่ว่าจะเป็น Boston, Chicago, New York สุดท้าย เลือก New York เพราะเป็นเมืองที่เจริญอันดับต้นๆของโลก มีความหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม และความอิสระ ที่นี่เลยกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วย Creativity น่าจะได้เห็นอะไรเยอะ ถึงจะรู้ว่าค่าครองชีพสูง แต่ก็อยากลองมาใช้ชีวิตอยู่สักครั้ง
ไป อเมริกาด้วย วีซ่าอะไร
อย่างที่รู้ คนไทยมาอเมริกาต้องขอ Visa ก่อน ซึ่งทั่วๆไปจะมี วีซ่านักท่องเที่ยว ขอได้สูงสุด 10 ปี แต่อยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือน แต่สำหรับ วีซ่านักเรียน F-1 จะขอได้สูงสุด 5 ปี อยู่ได้เรื่อยๆเมื่อยังเป็นนักเรียนที่มีโรงเรียนสังกัดอยู่และยังไม่ขาดเรียนเกินกำหนด โดยมีเอกสาร i-20 รับรองจากทางโรงเรียน
โรงเรียนสอนภาษา New York
สถาบันภาษาที่นี่แบ่งเป็น 2 แบบคร่าวๆ คือ University หรือ College ของรัฐ กับ สถาบันสอนภาษาทั่วไป
สำหรับสถาบันของรัฐ คือมหาลัยเปิดสอนภาษาเอง เพื่อสอนนักเรียนปรับพื้นฐานเพื่อเข้าเรียนสถาบันตัวเองในระดับปริญญา (เหมือน จุฬา สอนภาษาให้กับนักเรียนที่จะเข้าจุฬา) เช่น NYU, Queen College, Hunter College, La Guardia เรียนเป็น Semester เริ่มและจบตามกำหนด ข้อดีคือหลักสูตรแน่น การเรียนการสอนจริงจัง ข้อด้อยคือราคาแพง และต้องเริ่มเรียนตาม Semester กับ สถาบันสอนภาษาทั่วไป (คล้ายๆ Wall street, British counsel) เช่น Alcc, Zoni ซึ่งจะเริ่มเรียนได้ทุกสัปดาห์ ไปเมื่อไหร่ก็ได้ ข้อดีคือราคาถูก ตารางเรียนยืดหยุ่นกว่า ข้อเสียคือคุณภาพอาจจะไม่เป๊ะเท่า และความน่าเชื่อถืออาจจะไม่เท่า College (ความเห็นส่วนตัว)
ซึ่งจากการหาข้อมูล สำหรับคนไทยที่จะขอ Visa F-1 คงหนีไม่พ้น La Guardia และ Hunter College ความน่าเชื่อถือของโรงเรียนภาษามีผลต่อการอนุมัติวีซ่า เราเลยเลือก Hunter College เพราะเป็นหนึ่งใน CUNY (The City University of New York) ซึ่งเป็นกลุ่มมาหลัยชั้นนำของ New York ก็จะได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่า เรื่องค่าเรียนก็แพงพอสมควรเลยทีเดียว
หลังจากหาข้อมูล ก็รู้ว่าถ้าเราพอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก็สามารถสมัครเรียนและทำเรื่องทั้งหมดได้ด้วยตัวเองเลย อาจจะงงนิดหน่อย แต่ไม่ยากเกินไป
ขั้นตอนการสมัคร เรียนภาษาที่อเมริกา ด้วยตัวเอง
- ติดต่อสถาบัน เรียนภาษา อเมริกา ที่สนใจ
- กรอกเอกสารของทางสถาบัน และเตรียมเอกสารตามรายการที่แจ้ง
- ชำระค่าเทอมและค่าธรรมเนียมต่างๆ
- ส่งเอกสารทั้งหมดไปที่สถาบัน ในอเมริกา
- รอสถาบันรับเป็นนักเรียน และส่งเป็น i-20 กลับคืนมาให้เราที่บ้าน พร้อมหมายเลข SEVIS
- สมัครวีซ่า กรอกข้อมูล ชำระค่าวีซ่าและค่า SEVIS FEE
- จองวันสัมภาษณ์วีซ่า
- หลังจากได้อนุมัติ ก็ซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยสามารถเข้าสหรัฐอเมริกาได้ล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนวันเริ่มเรียน
ขั้นตอนเยอะหน่อย วุ่นวายเรื่องเอกสาร เตรียมตัวเนิ่นๆก็ไม่ยากเกินไป บอกเลยว่าพอมาถึงที่นี่ยังมีเรื่องยากๆต้องเจอ มีอะไรต้องปรับตัวอีกเยอะ ความวุ่นวายของเอกสารนี่เล็กน้อยไปเลย พอดีพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าขอไปพักผ่อนก่อน เอาไว้เดี๋ยวมาเล่าขั้นตอนและระยะเวลาแบบละเอียดในโพสต์หน้าครับ
อยู่นิวยอร์ค ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
สำหรับใครที่สนใจมาเที่ยว มาเรียนภาษา หรือมาอยู่นิวยอร์ค
ค่าเช่าบ้าน เดือนละ 550-900 $ ขึ้นอยู่กับทำเลและความใหม่ (รวมค่าน้ำค่าไฟ)
ค่าอาหาร มื้อละ $9 (หากทำอาหารเอง จะถูกลง)
ค่าโทรศัพท์ เดือนละ $29
ค่า Subway Unlimited เดือนละ $121
สรุปเบ็ดเสร็จ ถ้าอยู่อย่างประหยัดสุด ก็จะตกเดือนละ $6,740
*ไม่รวมค่าเรียน เดือนละ $400-$1000
Add Comment