“48 ปี โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ”
ในย่านสีลม ในไม่กี่ปีนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมากไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า คอนโด ห้างสรรพสินค้าที่คุ้นตา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงตั้งอยู่อย่างสง่างามบนถนนสายนี้ก็คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จนถึงวันนี้ก็เปิดทำการครบรอบ 48 ปีพอดี และกำลังจะมีการรีโนเวตครั้งใหญ่ เลยถือโอกาสเก็บบรรยากาศเป็นเรื่องราวดีๆในความทรงจำกันหน่อย
โรงแรมดุสิตธานี เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2315 โดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด โดยถือเป็นโรงแรมระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในสมัยนั้น
“ดุสิตธานี” ถูกตั้งขึ้นให้คล้องกับชื่อเมืองในสวรรค์ (สวรรค์ชั่นที่ 4 จาก 6 ชั้น) และเนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสวนลุมพินี ซึ่งมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งเคยสร้างเมืองแม่แบบประชาธิปไตยขึ้นในนาม “ดุสิตธานี” ซึ่งถือเป็นการหลอมรวมแนวคิดของไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน จึงนำเอาแนวคิดนี้มาใช้ในการออกแบบตกแต่งภายใน โดยใช้ภาพวาดและวัสดุตกแต่งสไตล์ไทย ผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน
หากใครผ่าน MRT สีลม บ่อยๆ จะคุ้นเคยกับป้ายดุสิตธานีสีครีม-ทอง สุดคลาสสิค ที่นี่ถือเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ รวมทั้งร้านค้า สปา และห้องอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหารเวียดนาม เธียงดอง หรือ อาหารนานาชาติ Pavilion ที่เคยรีวิวกันไปแล้ว
หลังจากลงจากรถ จะเจอกับ Lobby ที่โอ่โถงฝ้าเพดานสูงและโอ่โถงมาก กับการใช้สีขาว ครีม ทองได้อย่างลงตัว
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเจอกับความโอ่โถงแบบสุดๆ กับเสาสูงชะลูด การออกแบบหัวเสาให้ต่อออกมาเป็นโครงสร้างฝ้าเพดาน การเล่นไฟทั้งกลางวันและกลางคืน เหมือนอยู่บนสวรรค์จริงๆ วิวสวนที่มองผ่านกระจกใสสูงจากพื้นจรดเพดาน มองออกไปเห็นน้ำตกไหลลดหลั่นตามลำดับ สำหรับผมจุดนี้เป็นส่วนที่นั่งแล้วรู้สึก “รื่นรม” ที่สุดของโรงแรมก็ว่าได้
หลังจาก Check-in เสร็จจะได้รับบัตรเพื่อรับ Welcome Drink น้ำมะนาวสดชื่นจิบแล้วก็นั่งพักให้หายเหนื่อย
บริเวณสวนจะเป็นร่มไม้ใหญ่ น้ำตก และบ่อปลาคราฟ นั่งตรงนี้จะได้ยินเสียงน้ำไหลเย็นตลอดเวลา
บริเวณโถงลิฟท์ที่เท่มากๆ เป็นการผสมความทันสมัยกับความคลาสสิคเข้าด้วยกัน กับตัวเลขชั้นที่โชว์ในวงกลมเล็กๆ บริเวณหน้าผากลิฟท์ กับกระเบื้องหินอ่อนสีแดงน้ำตาล ไทยๆ
วันนี้ได้พักห้อง DUSIT CLUB ROOM ชั้น 16 ถือว่าสูงพอสมควร ได้วิวมุม 4 แยกถนนพระราม 4 ตัดสีลม มองเห็นสวนลุมนิดหน่อย ห้องคืนนี้ขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร ห้องยังคงตกแต่งสไตล์ไทยๆ กับวัสดุสีครีม ไม้ และกรอบโลหะสีทองแบบคลาสสิคๆ แบบไทยๆ
เข้าไปจะเจอกับห้องนั่งเล่น ดู TV พร้อมโต๊ะทำงาน ในส่วนนี้ขนาดประมาณ 1/4 ของห้อง ซึ่งถัดไปจะเป็นห้องนอน
วันนี้ได้ห้องเป็นเตียง King Size ใหญ่ หนา และนุ่มมากๆ หัวเตียงกรุด้วยผ้าทอลายไทย เข้ากันกับหมอนสีน้ำตาลแดงและภาพรวมของห้อง ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานใหญ่ สามารถเปิดออกไปยืนรับลมที่ระเบียงได้ เนื่องจากอยู่สูงลมเลยแรงมากทีเดียว (ระเบียงขนาดพอยืนเท่านั้น เอาเก้าอี้ออกไปนั่งไม่ได้ครับ)
จากห้องนอนถัดมาเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีประตู้กั้นจากห้องนอนได้ จะมีทั้ง Shower Box และอ่างอาบน้ำ และในสุดจะเป็นห้องน้ำ พร้อมกระจกเงาแบบส่องได้เต็มตัว จะได้ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกไปธุระ
อ่างล้างหน้าและกระจกขนาดใหญ่พร้อมกับชุด Amenities จะอยู่มุมนี้
หนึ่งคืนที่ดุสิตธานี บอกเลยว่าสบายจริงๆ การควบคุมอุณหภูมิทำได้ดีแอร์เย็นทั่วทั้งห้องไม่หนาวเกินไป หลับสนิทมากๆ
มื้อเช้าที่ Dusit Club
อาหารเช้าที่โรงแรมดุสิตธานีจะมี 2 จุดด้วยกัน คือที่ห้องอาหาร Pavilion ชั้น 1 ของโรงแรมและที่ Dusit Club ซึ่งเป็น Club lounge ส่วนตัวสุด Exclusive ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรมครับ โดยที่ Dusit Club จะไม่มีครัวหรือพ่อครัวประจำอยู่ โดยจะจัดอาหารไว้ปริมาณนึงที่เพียงพอกับแขกที่มาใช้บริการ แต่ก็ค่อนข้างครบครันแบบที่ Pavilion โดยจะมีพนักงานดูแลอย่างใกล้ชิดและมีความเป็นส่วนตัวมากๆ
เดินเข้ามาปุ๊ปจะมีพนักงานคอยต้อนรับอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง ภายใน Dusit Club จะมีชุดที่นั่งหลายเซ็ต หลายมุม ผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์ถูกตกแต่งด้วยผ้าทอ เหลือบเล่นกับแสงให้ความรู้สึกหรูหรา
ไลน์อาหารจะถูกแยกไว้ส่วนหนึ่ง อาหารถูกจัดไว้อย่างหลากหลาย ครบครัน อย่างละพอประมาณ เพราะใน Dusit Club จะมีคนมาใช้ไม่หนาแน่นมาก
ความพิเศษอีกอย่างคือเมนูที่สามารถสั่งได้แบบ A la carte ทำพิเศษจานต่จานเพื่อให้ทุกเช้าเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ
Beef Steak แบบ Medium กับ Omelette
สำรวจโรงแรมดุสิตธานี
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าจาก โรงแรม ดุสิตธานีแล้ว ก็ขอเดินเล่นรอบโรงแรมอีกสักหน่อย ว่ามีอะไรบ้าง
ตรงนี้เป็นทางเดินไป “เทวารัณย์ สปา” บริการนวดแผนไทยซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการนวดปรนนิบัตรหรือนวดบำบัดรูปแบบต่างๆ ที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกัน
ฟิตเนสขนาดใหญ่กับอุปกรณ์ครบครัน พร้อมเจ้าหน้าที่ฟิตเนสคอยดูแลให้คำแนะนำอยู่ไม่ห่าง
สระว่ายน้ำสีฟ้าที่อยู่ระหว่างอาคาร แม้มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ถือว่าสงบ นักท่องเที่ยวหลายคนก็เลือกใช้เวลาว่างมานอนอาบแดดที่นี่
ปิดท้ายด้วยน้ำตกที่เป็น Signature ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ กับความยิ่งใหญ่ อลังการและร่มรื่นไม่เหมือนใคร เป็นอีกมุมที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ฟังเสียงน้ำ และเพลิดเพลินกับปลาคราฟที่ว่ายวนไปมา
สรุปความประทับใจ
Dusit Thani Bangkok (โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ) เป็นอีกโรงแรมหลายๆคนคุ้นเคย โดยเฉพาะใครที่เดินทางระหว่าง BTS ศาลาแดง และ MRT สีลม จะรู้สึกได้เลยว่าที่นี่เป็นทำเลทองมากๆ มีพื้นที่ขนาดใหญ่และตั้งตระหง่านอยู่หัวมุมถนนพระราม 4 ตัดสีลม และวันที่ได้มีโอกาสมาพัก มาทานอาหารจริงๆ ก็ไม่ผิดหวังเลยกับการบริการระดับ 5 ดาว คงไม่แปลกใจที่ตลอด 48 ปีโรงแรมดุสิตธานีได้รับความไว้วางใจระดับนานาชาติให้รองรับแขกบ้านแขกเมืองมาแล้วมากมาย ครั้งนี้ยินดีมากๆ ที่มีโอกาสมาพักและเก็บบรรยากาศก่อนปรับโฉมครั้งใหญ่ มาติดตามกันว่าหลังจากการปรับโฉมครั้งใหญ่จะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ต้องเป็นอีกหนึ่ง Landmark จุดใหม่ของกรุงเทพฯ แน่นอน
แผนที่และการเดินทาง
Dusit Thani Bangkok
946 Thanon Rama IV, Khwaeng Silom,
Khet Bang Rak, Krung Thep Maha Nakhon 10500
Tel: +66 22009000
https://www.dusit.com/dusitthani/bangkok/
Add Comment